Page 431 - kpi19912
P. 431

4.  การขับเคลื่อนจัดการประเด็นปัญหา นั้น มีวิธีการ ได้แก่
                           4.1 ภาครัฐควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับการจัดการปัญหา

                   ความขัดแย้งและลดความขัดแย้งร่วมกันค้นหาประเด็นปัญหาและร่วมกันหาทางออกที่ยอมรับกันได้
                   หลักการมีส่วนร่วม เป็นข้อหนึ่งที่ส าคัญของ ธรรมาภิบาล (Good  Governance)   ซึ่งในการด าเนิน
                   โครงการใดของภาครัฐที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน ควรต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุก
                   ขั้นตอนตั้งแต่ระดับต่ าสุดไปหาสูงสุด ได้แก่ ระดับการให้ข้อมูล ซึ่งเป็นระดับต่ าสุด ในฐานะเป็นการให้

                   ประชาชนร่วมรับรู้โครงการฯ ระดับการเปิดรับความคิดเห็นของประชาชน ระดับการปรึกษาหารือ
                   ระดับการวางแผนร่วมกัน ระดับการร่วมปฏิบัติ  ระดับการร่วมติดตามตรวจสอบและประเมินผล และ
                   ระดับการควบคุมโดยประชาชน  (สถาบันพระปกเกล้า, 2552:  21  -24)   ดังนั้น ภาครัฐควรจัดหา

                   วิธีการให้เกิดการมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด ซึ่งวิธีการ ได้แก่ การพูดคุยแบบไม่เป็นทางการเพื่อรับฟัง
                   กัน  การจัดเวทีสานเสวนาหาทางออก การใช้สื่อสังคมออนไลน์ เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยใน
                   การเผยแพร่ข้อมูลและการรวบรวมความคิดเห็น  การใช้กลไกทางกฎหมายก าหนดการร่วมมือของทุก
                   ภาคส่วน เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องมีความจริงใจในการแลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูลผลดีและผลกระทบของ
                   โครงการที่จะท าเพื่อหาทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น

                           4.2 การจัดระเบียบสังคม หรือ การท าข้อตกลงร่วมกันของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง เช่น
                   กรณีความขัดแย้งจากการสร้างนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ความขัดแย้งลดลงได้ระดับหนึ่งมาจาก
                   การเจรจาและมีข้อตกลง โดยทางนิคมฯ ได้มีการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดสภาพอากาศ ซึ่งหากค่าเกิน

                   มาตรฐานก็จะด าเนินการแก้ไขโดยทันที หรือ กรณีปัญหาฝุ่นที่เกิดจากโรงงานในอ่างทอง ทางโรงงาน
                   ได้มีการจัดบุคลากรไปเก็บค่าฝุ่นในทุกบ้านเพื่อมาตรวจสอบ โดยหากพบว่า บ้านใดมีปริมาณค่าฝุ่น
                   เกินมาตรฐานก็จะท าการแก้ไข หรือ ชดเชย เป็นเงิน หรือ สิ่งของตามที่ประชาชนต้องการ
                           4.3 การสนับสนุนบูรณาการจัดการความขัดแย้งและพื้นที่อย่างเป็นระบบ เช่น การมีองค์กร

                   ที่เป็นกลางมาร่วมรับฟังปัญหาความขัดแย้งและการขับเคลื่อนความขัดแย้งสู่สันติภาพ โดยองค์กรที่
                   เป็นกลางนี้ต้องเป็นทีมที่มีศักยภาพ มีเอกภาพและเอกเทศ รวมทั้งมีความรู้และทักษะในการเจรจา
                   ไกล่เกลี่ย มีการใช้การสื่อสารอย่างสันติ (Nonviolent communication)
                           4.4 ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม  ควรส่งเสริมและสนับสนุนการจัด

                   กิจกรรมอบรมให้ความรู้ความเข้าใจ การตระหนักถึงการจัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์และ
                   สันติภาพ
                          4.5 การศึกษาวิจัยชุมชนและน าข้อมูลผลการวิจัยมาให้เพื่อให้ทุกภภาคส่วนได้รับรู้ เช่น การ
                   จัดท าโครงการของภาครัฐนั้นที่ว่าพัฒนานั้นเหมาะสม หรือประสบผลส าเร็จเกิดการพัฒนาหรือไม่

                   อย่างไร เช่น การศึกษาเรื่องเกษตรอินทรีย์ หากพื้นที่นั้นเหมาะสมกับการท าเกษตรสมบูรณ์ เกษตรกร
                   มีรายได้ ชุมชนพึ่งตนเองได้ ดังนั้น ภาครัฐไม่ควรที่จะมีโครงการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นพิษ
                   ภัยต่อพื้นที่เกษตร


                       ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัย
                          1.การศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพของประเด็นความขัดแย้งของแต่ละจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง จะช่วย
                   ท าให้เข้าใจถึงความเป็นมาและสถานการณ์ความขัดแย้ง สาเหตุของปัญหา ผลกระทบ รูปแบบ
                   กระบวนการจัดการความขัดแย้ง และกลยุทธ์ เช่น กรณีการจะสร้างโรงไฟฟ้าซับบิทูมินัส จ.อ่างทอง

                   เพิ่มขึ้นอีก ทั้งที่โรงงานไทยเรยอน ยังไม่สามารถถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านต้องทุกข์ทนกับกลิ่น
                   เหม็นเป็นเวลานานนับ 40 ปี

                                                           426
   426   427   428   429   430   431   432   433   434   435   436