Page 307 - kpi19903
P. 307
272
ในอดีตมีการสร้างตัวแบบท านายพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไป พ.ศ. 2550
โดยเป็นการวิเคราะห์ระดับบุคคลด้วยการวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกพหุนาม (Multinomial logistic
regression) เพื่อท านายว่าประชาชนจะเลือกพรรการเมืองใดระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชาชน
หรือพรรคอื่นๆ ตลอดจนพยากรณ์พฤติกรรมการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยใช้ตัวแบบทางสังคมวิทยา (The
sociological model) ซึ่งน าตัวแปรสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจแต่ละบุคคล เช่น การศึกษา อาชีพ รายได้
เพศ ภูมิภาคที่อยู่อาศัย และถิ่นที่อยู่อาศัย เป็นต้น มาเป็นตัวแปรพยากรณ์การมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของ
ประชาชน และใช้ตัวแบบทฤษฎีคุณค่าทางการเมือง (Valence politics model) เพื่อศึกษาภาพลักษณ์ของ
พรรคการเมืองและหัวหน้าพรรค โดยน ามาใช้เป็น “ตัวช่วยในการตัดสินใจทางการเมือง” (Heuristic Devices
) ในการตัดสินใจในการออกเสียงเลือกตั้ง (Vote choice) ซึ่งพบว่า อิทธิพลของความนิยมในพรรคการเมือง
และหัวหน้าพรรค เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (อรรถสิทธิ์ พานแก้ว, 2556a)
อย่างไรก็ตามการศึกษาโดยอรรถสิทธิ์ พานแก้ว (2556a & 2556b) ไม่ได้มีการศึกษาการประเมินผล
การท างานของรัฐบาลโดยเฉพาะเรื่องของการประเมินผลงานด้านเศรษฐกิจและนโยบายสาธารณะว่ามีความ
เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเลือกตั้งหรือไม่ โดยอยู่บนพื้นฐานที่ว่ารัฐบาลได้ท าผลงานดีมากน้อยเพียงใดกับการ
จัดการบริหารที่เกิดขึ้นในประเทศ หากประชาชนเห็นว่าดีก็อาจจะเลือกพรรครัฐบาลให้เข้ามาบริหารประเทศ
อีกครั้งหนึ่ง หรือในทางกลับกันหากประชาชนเห็นว่าพรรครัฐบาลไม่ได้มีผลงานการท างานที่ดีก็อาจจะเป็น
เหตุผลที่ประชาชนจะเลือกให้พรรคฝ่ายค้านหรือพรรคการเมืองอื่น และภายหลังจากนั้นประเทศไทยก็ได้มีการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งล่าสุดในปี 2554
ดังนั้นการศึกษานี้จึงเป็นการปรับปรุง อัพเดต และต่อยอดองค์ความรู้ในการศึกษาพฤติกรรมการ
เลือกตั้งจากการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ของอรรถสิทธิ์ พานแก้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตัวแบบส าหรับ
ท านายพรรคการเมืองที่ประชาชนตั้งใจจะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งโดยอาศัยองค์ความรู้จากผลการศึกษา
เกี่ยวกับการเลือกตั้งในอดีต ทั้งนี้ได้เพิ่มตัวแปรด้านการประเมินผลการท างานของรัฐบาลและนโยบาย
สาธารณะก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และการวิเคราะห์องค์ประกอบของปัจจัยที่ผู้ลงคะแนนเลือกใช้ในการเลือก
ผู้สมัครและพรรคเข้ามาเป็นตัวแปรในการสร้างตัวแบบในการท านายผลการเลือกตั้งในปี 2554 ในครั้งนี้ด้วย
17.2 ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ในส่วนนี้จะทบทวนวรรณกรรมของปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเพื่อ
น าไปสู่กรอบแนวคิดการวิจัย
17.2.1 สถานภาพทางสังคมเศรษฐกิจกับพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ตัวแบบทางสังคมวิทยาได้น าตัวแปรสถานภาพทางสังคมเศรษฐกิจอันได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา
อาชีพ ระดับรายได้ มาเป็นตัวแปรพยากรณ์การมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของประชาชน (อรรถสิทธิ์ พานแก้ว,
2556b)