Page 310 - kpi19903
P. 310
275
ส่วนใหญ่ เช่น บุคลิกภาพ ซึ่งเกือบไม่มีความเชื่อมโยงกับความสามารถทางการเมืองหรือการบริหารเลย (ถวิล
วดี บุรีกุล & โรเบิร์ต บี. อัลบริตตัน, 2550)
ทั้งนี้ผลการวิจัยพฤติกรรมการเลือกตั้งของไทยใน พ.ศ. 2550 พบว่า ความนิยมในตัวหัวหน้าพรรค
การเมืองสัมพันธ์กับผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างมากโดยเกิดขึ้นเฉพาะพรรคการเมืองขนาดใหญ่เท่านั้น
ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ (อรรถสิทธิ์ พานแก้ว, 2556a) ส่วนภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองมีอิทธิพล
ต่อพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแบบแบ่งเขตอย่างเห็นได้ชัด (อรรถสิทธิ์ พานแก้ว, 2556b) ดังนั้น
ความนิยมและความเชื่อมั่นของพรรคการเมืองและหัวหน้าพรรคการเมืองมีผลท าให้ผู้สมัครจากพรรคใดพรรค
หนึ่งมีโอกาสได้รับชัยชนะมากกว่า
17.2.5 การประเมินผลการท้างานของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล/นโยบายสาธารณะกับ
พฤติกรรมการเลือกตั้ง
ตัวแบบตามทฤษฎีการตัดสินใจเชิงเหตุผล (Rational choice theory) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง
อรรถประโยชน์และพฤติกรรมการเลือกตั้งอันเป็นการน าทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมมาอธิบาย
พฤติกรรมการเลือกตั้งและผลการเลือกตั้ง ดาวน์ (Downs, 1957a) แสดงความเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นการ
แข่งขันของพรรคการเมืองและหัวใจส าคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือ ประชาชนอาจใช้สิทธิ
ออกเสียงซึ่งเป็นวิธีการที่จะสร้างประโยชน์ส่วนบุคคลหรือประโยชน์ของตนให้มากที่สุด นั่นคือทางเลือกของผู้
ออกเสียงเลือกตั้งคือการค านวณว่าผู้สมัครหรือพรรคใดที่มีแนวโน้มจะน าประโยชน์สูงสุดมาให้แก่ผู้ออกเสียง
เลือกตั้ง
ทั้งนี้การประเมินผลการท างานของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล/นโยบายสาธารณะถือว่าเป็นการ
ประเมินอรรถประโยชน์จากการเลือกตั้งประการหนึ่ง เนื่องจากนโยบายสาธารณะและผลการท างานของ
รัฐบาลจะส่งผลต่ออรรถประโยชน์ของประชาชนผู้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งโดยตรง โดยเฉพาะเรื่องของการ
ประเมินผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งส่งผลกระทบกับปากท้องของประชาชนเป็นอย่างมากโดยตรง หาก
รัฐบาลใดท างานแล้วสร้างผลงานได้ดีเป็นประโยชน์แก่ประชาชน มีผลงานและนโยบายสาธารณะเป็นที่ชื่นชอบ
และชื่นชมของประชาชนแล้ว ประชาชนก็อาจจะเลือกพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลพรรคนั้นๆ ให้กลับเข้ามา
บริหารประเทศอีกครั้งหนึ่ง หรือในทางกลับกันหากประชาชนเห็นว่าพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลไม่ได้มีผลงาน
การท างานที่ดีเพียงพอก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ประชาชนสนับสนุนให้พรรคฝ่ายค้านหรือพรรคการเมืองอื่น
นอกเหนือจากพรรคแกนน ารัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในสมัยหน้าแทน
17.2.6 การมีนักการเมืองและพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนความคิดกับพฤติกรรมการเลือกตั้ง
เมื่อผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้เลือกนักการเมืองและพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนความคิดเป็นการแสดงออก
ถึงอัตลักษณ์ (Identity) ของตนเองที่มีต่อการเมือง ท าให้เกิดอัตตมโนทัศน์ (Self-concept) เกิดการรับรู้ความ
เป็นกลุ่มเดียวกันในสังคม (In-group) และยังท าให้เกิดความชอบพอในความเป็นพวกเดียวกันและเป็นการ
เสริมสร้างอัตลักษณ์ในตนเอง (In-group favoritism) (Ben-bassat & Dahan, 2012; Duell & Valasek,
