Page 302 - kpi19903
P. 302
267
1. เขตเลือกตั้งที่ท าบัตรเสียในการเลือกตั้งในอดีต (การเลือกตั้ง 2548 และ 2550) ยังคงท าบัตรเสีย
ในการเลือกตั้ง ปี 2554
2. เขตเลือกตั้งที่มีการกระจายของอายุมาก (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของอายุ) สูงมีแนวโน้มที่จะมีร้อย
ละของบัตรเสียสูง ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าเขตที่มีการกระจายของอายุมากมีแนวโน้มที่จะมีผู้สูงวัย ซึ่งอาจจะมี
cohort effect ได้รับการศึกษามาน้อยกว่า ประกอบกับเมื่อสูงอายุท าให้การอ่านมีปัญหาเนื่องจากสายตาที่แย่
ลง ท าให้เกิดบัตรเสียได้ง่าย
3. ร้อยละของผู้ที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งปี 2548 สัมพันธ์ทางลบกับร้อยละของบัตร
เสียในปี 2554 แสดงให้เห็นว่าเขตเลือกตั้งที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์สูงๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนเมือง มี
รายได้และระดับการศึกษาสูงกว่าจึงมีแนวโน้มที่จะไม่ท าบัตรเสีย
4. รายได้ต่อหัวต่อเดือนของประชาชนในเขตเลือกตั้งสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละบัตรเสีย แสดงให้เห็น
ว่าเขตเลือกตั้งที่ประชาชนมีฐานะทางการเงินดีมีแนวโน้มจะมีบัตรเสียต่ า
5. ร้อยละพื้นที่เมืองและชุมชนสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละบัตรเสีย เขตเมืองซึ่งมีสถานภาพทางสังคม
เศรษฐกิจดีกว่ามีแนวโน้มจะมีบัตรเสียน้อยกว่า
6. เขตเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละบัตรเสีย ทั้งนี้อาจจะเป็นผลมาจาก
การที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ได้มีพื้นที่กันดารหรือพูดภาษาไทยไม่ได้เมื่อเทียบกับภาคเหนือ ภาคใต้ และ
ภาคตะวันตกตามชายแดน การไม่รู้ภาษาไทยน่าจะเป็นตัวแปรที่มีผลชัดเจนกับร้อยละของบัตรเสีย แต่ภาค
อีสานไม่ได้มีปัญหาในเรื่องนี้มากนัก
7. ร้อยละของผู้ที่ประกอบธุรกิจของตัวเองและร้อยละของผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตรและ
การประมงสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละของบัตรเสีย แสดงให้เห็นว่า blue collar worker ซึ่งมีแนวโน้มจะมี
ระดับการศึกษาต่ ากว่ามีแนวโน้มจะอ่านออกเขียนได้ไม่ดีเท่าคนที่มีการศึกษาสูงอาจจะท าให้เกิดบัตรเสียได้ง่าย
2
8. ตัวแบบที่สร้างขึ้นมีค่า R = 0.86 หรือตัวแบบสามารถอธิบายการท าบัตรเสียได้ร้อยละ 86 ค่า
สัมประสิทธิ์ของสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ในตัวแบบมีค่าปานกลาง (lambda=0.56)
16 . 4 .2 ตัวแบบเชิงพื้นที่ท้านายร้อยละผู้ที่ไม่ประสงค์ลงคะแนน
ผลการพัฒนาตัวแบบเชิงพื้นที่ท านายร้อยละผู้ที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนดังแสดงในตารางที่ 16.11
พบว่า
1.ร้อยละของผู้ที่ออกเสียงไม่ประสงค์ลงคะแนนในการเลือกตั้งปี 2548 และ 2550 มีความสัมพันธ์
ทางบวกกับร้อยละของผู้ที่ออกเสียงไม่ประสงค์ลงคะแนนในการเลือกตั้งปี 2554 ดังนั้นในพื้นที่เขตเลือกตั้งเป็น
อย่างไรแสดงพฤติกรรมทางการเมืองอย่างไร มีแนวโน้มจะเกิดพฤติกรรมเดิมๆ อีก โดยเฉพาะในการ Vote No
2. ร้อยละการใช้ประโยชน์พื้นที่เมืองสิ่งปลูกสร้างมีแนวโน้มจะท าให้เกิด Vote No สูงมาก (β=.49)
ซึ่งไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะคนในพื้นในเมืองหรือเมืองใหญ่น่าจะมีรายได้สูง การศึกษาสูง พึ่งพาตนเอง