Page 304 - kpi19903
P. 304
269
ตำรำงที่ 16.12 Spatial error regression model ท านายร้อยละของการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
b β SE z-test p-value
ค่าคงที่ (Constant) 4.29 .10 .96 4.47 .00
ร้อยละของผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี 2548 0.51 .17 .03 16.57 .00
ร้อยละของผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี 2550 0.19 .04 .03 5.77 .00
รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือน 0.00 .65 .00 7.54 .00
ร้อยละของพนักงานบริษัทเอกชน -0.05 -.05 .02 -3.35 .00
ภาคเหนือ -1.10 -.03 .55 -1.99 .05
LAMBDA 0.38 .63 .07 5.83 .00
2
R = .81, -2LL = -776.47, AIC = 1,564.95, BIC = 1,588.51
3. ร้อยละของพนักงานบริษัทเอกชนและการเป็นเขตเลือกตั้งในภาคเหนือสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละ
ของผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งล่าสุด (2554)
2
4. ตัวแบบที่สร้างขึ้นมีค่า R อยู่ที่ 0.81 คือตัวแบบสามารถอธิบายการไม่ใช้สิทธิเลือกตั้งได้ร้อยละ 81
ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่มีค่าปานกลาง (lambda=.38)
16.5 สรุปผลกำรสร้ำงตัวแบบท ำนำยผลกำรเลือกตั้งของแต่ละพรรคกำรเมือง: กำรวิเครำะห์ในระดับพื้นที่
การพัฒนาตัวแบบเพื่อท านายผลการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อตลอดจนพฤติกรรมการ
ใช้สิทธิเลือกตั้งจ าเป็นต้องพิจารณาสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ด้วยจึงจะมีความแม่นย าดีกว่า
ตัวแบบเชิงพื้นที่แบบ Spatial error regression model มีความกลมกลืนและแม่นย ามากที่สุดใน
การท านายผลการเลือกตั้งและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
ตัวแปรพยากรณ์ในตัวแบบเชิงพื้นที่ท านายผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อมี
ลักษณะตัวแปรที่ใกล้เคียงหรือเกือบเหมือนกันแทบทุกตัวแบบแสดงให้เห็นว่าผลการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ
และแบบแบ่งเขตมีปัจจัยในการท านายร่วมกันค่อนข้างมาก
ฐานเสียงทางการเมืองหรือผลการเลือกตั้งในอดีตของพรรคการเมืองใดๆ มีแนวโน้มจะท านายผลการ
เลือกตั้งล่าสุดได้ดีมาก
สหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ในตัวแบบเชิงพื้นที่มีค่าที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ส าหรับพรรคขนาดกลางและ
เล็กเช่นพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคชาติไทยพัฒนามักมีค่าสหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ต่ ากว่าพรรคขนาดใหญ่เช่นพรรค
ประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อไทย
ตัวแบบเชิงพื้นที่พยากรณ์ผลการเลือกตั้งของพรรคขนาดใหญ่เช่นพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อ
ไทยมีความแม่นย ากว่าตัวแบบเชิงพื้นที่พยากรณ์ผลการเลือกตั้งขนาดเล็ก