Page 266 - kpi19903
P. 266

231



                     ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่พบได้ในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งค่า lambda ทุกตัวมี
               นัยส าคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ของพรรคขนาดใหญ่ เช่น พรรคเพื่อไทย และพรรค

               ประชาธิปัตย์ มีค่ามากกว่าพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็ก

                     USEI และ UDI สัมพันธ์เชิงลบกับสัดส่วนการเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งในระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ
               ในทางกลับกัน USEI และ UDI สัมพันธ์เชิงบวกกับสัดส่วนการเลือกพรรคประชาธิปัตย์  สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความ

               เป็นเมืองสัมพันธ์กับการแบ่งขั้วทางการเมือง กล่าวคือพื้นที่เมืองมีแนวโน้มเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่

                                                   2
               พื้นที่ชนบทจะเลือกพรรคเพื่อไทย จากค่า R  พบว่า ความกลมกลืนของตัวแบบการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อมี
               ค่ามากกว่าแบบแบ่งเขต และความกลมกลืนของตัวแบบการเลือกตั้งของพรรคขนาดใหญ่ เช่น พรรคเพื่อไทย

               และ พรรคประชาธิปัตย์ มีค่ามากกว่าพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจ

               ไทย และพรรคชาติพัฒนา
                     อย่างไรก็ตาม USEI และ UDI สัมพันธ์เชิงลบกับสัดส่วนการเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย

               และพรรคชาติพัฒนา ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ชนบทมีแนวโน้มเลือกพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก


               ควำมเป็นภูมิภำคนิยมและกำรแบ่งขั้วทำงกำรเมือง

                   ความเป็นภูมิภาคนิยมและการแบ่งขั้วทางการเมืองเห็นได้ชัดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย

               เป็นการทั่วไป พ.ศ. ภูมิภาค    4    การศึกษานี้จะแบ่งตัวแปรภูมิภาคออกเป็น   2554 ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ
               ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยใช้บริบทการบริหารและสถิติในการอธิบายความเป็นภูมิภาคนิยม ซึ่ง

               เกณฑ์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระดับภูมิภาค การศึกษาจัดกระท าตัว

               แปรดังกล่าวเป็นตัวแปรหุ่น (Dummy Variable) ซึ่งมีภาคกลางเป็นกลุ่มอ้างอิง
                   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสัมพันธ์เชิงลบกับสัดส่วนการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ และสัมพันธ์เชิงบวกกับ

               สัดส่วนการเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เป็นที่น่าแปลกใจว่า
               ภาคเหนือไม่สัมพันธ์กับสัดส่วนการเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติทั้งในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต

               และแบบบัญชีรายชื่อ ในทางกลับกันภาคเหนือกลับพบความสัมพันธ์กับสัดส่วนการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ใน

               การเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ การศึกษาพบว่าความเป็นภูมิภาคนิยมและการแบ่งขั้วทางการเมืองเห็นได้อย่าง
               ชัดเจน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสัมพันธ์เชิงลบกับสัดส่วนการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ และภาคใต้ก็สัมพันธ์

               เชิงลบอย่างมากกับสัดส่วนการเลือกพรรคเพื่อไทย

                   ความสัมพันธ์ของความเป็นภูมิภาคนิยมและการแบ่งขั้วทางการเมืองของพรรคขนาดกลางและพรรคขนาด
               เล็กไม่ชัดเจนมากนัก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสัมพันธ์เชิงบวกกับสัดส่วนการเลือกพรรคชาติพัฒนาในการ

               เลือกตั้งแบบแบ่งเขต และภาคเหนือสัมพันธ์เชิงบวกกับสัดส่วนการเลือกพรรคพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้ง

               แบบบัญชีรายชื่อ
   261   262   263   264   265   266   267   268   269   270   271