Page 271 - kpi19903
P. 271

236



               ประโยชน์ของประชาชนในชนบท (อภิชาต สถิตนิรามัย et al., 2556) สิ่งนี้อาจเป็นเหตุผลที่ภาคตะวันออก
               เฉียงเหนือไม่ลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอาจจะมีเหตุผลมาจากการที่คนเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่แล้ว

               การลงคะแนนเสียงเพื่อประโยชน์ส่วนตนในระยะเวลาอันสั้นจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คนเมืองมากนัก คนกลุ่มนี้

               จะกังวลเรื่องความสามารถและจริยธรรมของผู้สมัคร ซึ่งจะมีประโยชน์แก่ตนในระยะยาวมากกว่า
                       ความเป็นภูมิภาคนิยมและการแบ่งขั้วทางการเมือง หรือ การแบ่งแยกการเมืองระดับภูมิภาค เห็นได้

               ชัดเจนในการศึกษานี้ ภาคกลางเป็นภาคที่มีความเป็นเมืองมากที่สุด ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีดัชนี

               เศรษฐกิจและสังคมของเมืองต่ าที่สุด นอกจากนี้ภาคใต้ซึ่งเป็นฐานเสียงที่ส าคัญของพรรคประชาธิปัตย์ มีดัชนี
               ความหนาแน่นของเมืองต่ าที่สุด แต่กลับมีดัชนีเศรษฐกิจและสังคมของเมืองค่อนข้างสูง

                       ส าหรับพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็ก การแบ่งขั้วทางการเมือง ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ การ

               แบ่งแยกเมืองและชนบท และการแบ่งแยกการเมืองระดับภูมิภาค พบไม่มากเท่าพรรคขนาดใหญ่ เนื่องจาก
               พรรคเหล่านี้จะได้รับความนิยมแค่ในพื้นที่เฉพาะของตนเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีความจ าเป็นอย่างยิ่งที่จะน า

               แนวคิดการแบ่งแยกทางการเมืองในระดับภูมิภาค เข้ามาผนวกในทฤษฎีสองนคราประชาธิปไตย (เอนก เหล่า

               ธรรมทัศน์, 2556) เนื่องมาจากภูมิภาคสามารถเพิ่มความแม่นย าในการพยากรณ์พฤติกรรมการเลือกตั้งและ
               สัดส่วนในเลือกพรรคต่างๆได้ หรือกล่าวอีกย่างหนึ่งคือการแบ่งแยกเมืองและชนบทยังคงมีอยู่ แต่การแบ่งแยก

               ทางภูมิภาคก็สามารถเห็นได้ชัดในการเมืองไทย ทฤษฎีการตัดสินใจเลือกอย่างมีเหตุผล (Rational Choice

               Theory) (Downs, 1957) ยังคงสามารถอธิบายการแบ่งแยกทางภูมิภาคเหมือนที่เคยได้อธิบายการแบ่งแยก
               เมืองและชนบท

                       นอกจากนี้พื้นที่เมืองมีแนวโน้มที่จะมีสัดส่วนไม่ประสงค์ลงคะแนนและสัดส่วนไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสูง

               กว่าในพื้นที่ชนบท กรณีการไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง มีเพียงดัชนีความหนาแน่นของเมืองที่สามารถอธิบายได้
               ในขณะที่ดัชนีเศรษฐกิจและสังคมของเมืองและดัชนีความหนาแน่นของเมืองสัมพันธ์กับการไม่ประสงค์

               ลงคะแนน ผลการศึกษานี้อธิบายได้ว่า ข้อหนึ่งอาจเกิดจากการเบื่อหน่ายทางการเมืองของคนที่มีสถานภาพ

               ทางเศรษฐกิจและสังคมสูง ซึ่งมีโอกาสเบื่อการเมืองมากกว่าคนที่มีสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่ต่ ากว่า
               ข้อสองคือการว่างงานแฝงในพื้นที่ชนบท พวกเขาสามารถไปลงคะแนนได้ง่ายกว่าเนื่องจากพวกเขามีเวลาว่าง

               มากกว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเมือง และข้อสามคือความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นเมืองและการไม่ไปใช้สิทธิ์

               เลือกตั้งสามารถอธิบายได้ด้วย bystander effect(Darley & Latane, 1968; Latané & Darley, 1970)
               เนื่องจากในพื้นที่ชนบทซึ่งประชากรมีความหนาแน่นน้อย จะง่ายต่อการติดตามว่าใครออกไปใช้สิทธิ์ หรือ ใคร

               ไม่ออกไปใช้สิทธิ์

               งานน าไปใช้ทางปฏิบัติ (Practical implications)
                       เนื่องจากความเป็นเมืองสัมพันธ์อย่างเห็นได้ชัดกับพฤติกรรมการเลือกตั้ง ดังนั้นการวางแผนพัฒนา

               เมืองควรควบคู่ไปกับการพัฒนาการเมือง

                       ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง มีความจ าเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุง
               นโยบายสาธารณะเพื่อให้ความส าคัญกับคนจนและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่ชนบทก่อน ความเป็นเมืองช่วยท า
   266   267   268   269   270   271   272   273   274   275   276