Page 275 - kpi19903
P. 275
240
(Dissimilar) และหลังจากนั้นหาความเข้มข้นของพฤติกรรมการเลือกตั้งด้วยวิธี Local Indicators of Spatial
Association (LISA)
สถิติ Moran’s I ใช้ทดสอบเพื่อวิเคราะห์การเกาะกลุ่มกันของผลการเลือกตั้ง โดยพรรคที่ได้ท าการ
วิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ คือ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจ
ไทย ซึ่งได้ที่นั่ง ส.ส. เป็น 4 ล าดับแรกในการเลือกตั้ง 2554 ซึ่งได้ท าการวิเคราะห์ทั้งผลการเลือกตั้งแบบแบ่ง
เขตเลือกตั้ง (Electorate) แบบบัญชีรายชื่อ (Party List) และพฤติกรรมการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต
ในปี 2554 ได้แก่ บัตรเสีย บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน และผู้ไม่ใช้สิทธิเลือกตั้ง
การน าเสนอแบ่งเป็น 4 ส่วนดังนี้
1) ค่าสถิติเชิงบรรยายของร้อยละผลการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554
2) สหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ของผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
3) สหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ของผลการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ
และ 4) สหสัมพันธ์เชิงพื้นที่ของพฤติกรรมการใช้สิทธิเลือกตั้ง
15.1 ค่ำสถิติเชิงบรรยำยของร้อยละผลกำรเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร แต่ละเขตเลือกตั้งพ.ศ. 2554
ผลการเลือกตั้งปี 2554 ในเบื้องต้น พบว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มที่จะ
เลือกพรรคเพื่อไทย ส่วนภาคใต้นั้นมีแนวโน้มที่จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรค
ภูมิใจไทยมีรูปแบบที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก สถิติเชิงบรรยายของร้อยละของผลการเลือกตั้ง ส.ส. แต่ละเขตเหลือตั้ง
ระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อแสดงในตารางที่ 15.1 ซึ่งแสดงค่าสูงสุดและต่ าสุดของคะแนนมาตรฐาน -z ที่มี
ค่าเฉลี่ยเท่ากับศูนย์และความแปรปรวนเท่ากับหนึ่งในคอลัมน์ขวามือสุดด้วยพบว่า
1. ค่าเฉลี่ยร้อยละที่เลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเพื่อไทยทุกเขตเลือกตั้งในระบบแบ่งเขตสูงถึงร้อยละ 40
ในขณะที่ในระบบแบ่งเขต พรรคประชาธิปัตย์ได้เพียงร้อยละ แต่ 28เพราะความเป็นพรรคการเมืองใหญ่สอง
พรรคค่าต่ าสุดของร้อยละที่เลือกพรรคใดพรรคหนึ่งยังไม่มีค่าต่ าจนเท่ากับร้อยละ ซึ่งแตกต่างจากพรรคภูมิใจ 0
ไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา
2. พิสัยของร้อยละที่เลือกพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ในระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อมีค่า
ร้อยละ 80 ซึ่งมีค่ากว้าง การกระจายมีค่ามาก แสดงว่ามีความแตกต่างเชิงพื้นที่ค่อนข้างมาก ขณะที่พิสัยของ
ร้อยละที่เลือกพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาในระบบแบ่งเขตมีค่าเพียงร้อยละ 50 และพิสัยของร้อย
ละที่เลือกพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาในระบบบัญชีรายชื่อมีค่าเพียงร้อยละ 40 ซึ่งมีพิสัยและการ
กระจายที่แคบกว่าแบบแบ่งเขต
3. การกระจายของร้อยละที่ไม่ไปสิทธิเลือกตั้งมีมากกว่าการกระจายของร้อยละบัตรเสียและร้อยละที่
ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
เมื่อแปลงร้อยละของผลการเลือกตั้งเป็นคะแนนมาตรฐาน -z ด้วยการลบออกด้วยค่าเฉลี่ยและหาร
ด้วยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวแปรนั้นๆ เราจะพบว่าข้อมูลผลการเลือกตั้งมีปัญหา floor effect เนื่องจาก