Page 141 - kpi19903
P. 141

113



                       ค าถามน าการวิจัยที่สาม: พรรคการเมืองพรรคใดสามารถรักษาฐานเสียงในการเลือกตั้งสส. ระบบแบ่ง
               เขต/ระบบบัญชีรายชื่อได้ดีกว่ากัน

                       มีความเชื่อกันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ไม่ได้เป็นพรรคหัวหน้าตั้ง ไม่ได้เป็นพรรค

               เฉพาะกิจ และมีความเป็นสถาบันทางการเมืองสืบทอดมายาวนาน หากเป็นเช่นนั้นจริง พรรคประชาธิปัตย์ก็ควร
               สามารถรักษาฐานเสียงทางการเมืองในเขตเลือกตั้งของตนไว้ได้ดีกว่า และค่าสหสัมพันธ์ระหว่างผลการเลือกตั้งใน

               อดีตและผลการเลือกตั้งในปัจจุบันของพรรคประชาธิปัตย์ควรจะต้องมีค่าสูงกว่าพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่จัดตั้งขึ้นใน

               ภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทย พรรคชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคอื่น ๆ ทั้งหมด
                       ค าถามน าการวิจัยที่สี่: พรรคการเมืองสามารถรักษาฐานเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส. ระบบแบ่งเขตได้ดีกว่า

               การเลือกตั้ง ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อได้หรือไม่?

                       การเลือกตั้งและระบบพรรคการเมืองน่าจะมีการดูแลและผูกพันกับประชาชนในพื้นที่มากกว่าในกรณีการ
               เลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตและระบบบัญชีรายชื่อ มีระบบหัวคะแนนเป็นหมุดเชื่อมระหว่างนักการเมืองกับ

               ประชาชนในพื้นที่ (อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ et al., 2559) นอกจากนี้การเมืองในชีวิตประจ าวัน (Everyday politics

               life) อันเป็นการสร้างสายสัมพันธ์และระบบอุปถัมภ์ในพื้นที่ของ ส.ส. (Walker, 2008) น่าจะท าให้การรักษาฐาน
               เสียงการเลือกตั้ง ส.ส. ในระบบแบ่งเขตท าได้ดีกว่าในระบบสัดส่วนหรือบัญชีรายชื่อ ดังนั้นค่าสหสัมพันธ์ระหว่าง

               ผลการเลือกตั้งในอดีตและผลการเลือกตั้งล่าสุดของ ส.ส. ระบบแบ่งเขตน่าจะมีค่าสูงกว่าระบบสัดส่วนหรือระบบ

               บัญชีรายชื่อ
                       ค าถามน าการวิจัยที่ห้า: ผลการเลือกตั้ง ส.ส. ระบบแบ่งเขต/ระบบบัญชีรายชื่อของไทยมีการแบ่งขั้วทาง

               การเมืองหรือไม่

                       ในรอบสิบปีที่ผ่านมา มีความเชื่อกันว่าการเมืองไทยมีการแบ่งขั้ว (Political polarization) อย่างชัดเจน
               เช่น เป็นฝ่ายที่สนับสนุนระบอบทักษิณหรือฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ดังนั้นหากเขตเลือกตั้งใดเลือกขั้วหนึ่งก็จะ

               ไม่เลือกอีกขั้วหนึ่ง เช่น ร้อยละการเลือกพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งปี 2548 และร้อยละการเลือกพรรคพลัง

               ประชาชนในปี 2550 น่าจะสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละการเลือกพรรคเพื่อไทยในปี 2554 แต่น่าจะสัมพันธ์ทางลบ
               กับร้อยละการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2554 และในทางกลับกันร้อยละการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในปี

               2548 และ 2550 น่าจะสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2554 แต่จะสัมพันธ์ทางลบกับ

               ร้อยละการเลือกพรรคเพื่อไทยในปี 2554 หากมีการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างชัดเจนทั้งในการเลือกตั้ง ส.ส. แบบ
               แบ่งเขตและระบบสัดส่วน/บัญชีรายชื่อ

                       ค าถามน าการวิจัยที่หก: การที่พรรคการเมืองมีฐานเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส. ระบบแบ่งเขต/บัญชีรายชื่อ

               จะช่วยให้สามารถรักษาฐานเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ/แบ่งเขตได้หรือไม่
                       ทั้งนี้ฐานเสียงไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อ/แบ่งเขต น่าจะสามารถตีแผ่ขยายเป็น

               การทั่วไปจากการเลือกตั้งแบบหนึ่งไปสู่การเลือกตั้งอีกแบบหนึ่งได้ ตามหลักการขยายความเป็นทั่วไปของสิ่งเร้า
   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146