Page 34 - kpi18630
P. 34
เราสองคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเงียบอีก เพราะแม่บอกเรามาก่อนหน้า
นั้นแล้วว่า ห้ามไปเล่นริมคลองเพราะกลัวเราตกน�้าไป งานนี้ผมก็เลยต้องท�าเป็นไม่รู้
ไม่ชี้ สั่งก�าชับน้องจี้ด้วยเป็นเด็ดขาดว่า ห้ามบอกกับพ่อหรือแม่ ไม่เช่นนั้นแล้วผม
จะไม่ให้น้องจี้ซ้อนท้ายจักรยานไปไหนมาไหนอีก
น้องจี้พยักหน้า ท�าท่าเม้มปากแน่น และยกมือขึ้นตีมือกับผมหนึ่งทีแทน
ค�ามั่นสัญญา
แม่มดก็ยังเมียงๆ มองๆ เราเหมือนเดิม ผมก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้แม่มด
เห็น เราเรียนที่โรงเรียน กทม.ในหมู่บ้าน ตอนเย็นเราเดินกลับบ้านพร้อมกัน พอถึง
ซอย ผมก็จะแอบส�ารวจก่อนว่ามีแม่มดตัวไหนอยู่หน้าบ้านบ้าง ถ้ามีหลายตัว ผมก็
จะไม่โผล่ออกจากบ้าน ไม่จูงจักรยานออกมาให้แม่มดเห็น จนกว่าแม่มดจะตายใจ
หายเข้าไปในบ้าน นั่นแหละ ผมจึงจะพาน้องจี้ขี่จักรยานซ้อนท้ายเล่น
เย็นวันที่ปลอดโปร่งสายตามาดร้ายของแม่มด ผมไปที่ต้นไม้ใหญ่ชายคลอง
อีก เราก็ได้เจอกับพี่ๆ วัยรุ่นสามคนนั่งกันอยู่ที่โคนต้น เขาก�าลังสุมหัวท�าอะไรกัน
ไม่รู้ คนหนึ่งพอเห็นผมกับน้องจอดจักรยานมองดูก็กวักมือเรียก
“หนูมานี่ซิ...”
อีกคนหนึ่งลุกขึ้นยืนและเดินตรงมาที่เราสองคนด้วย ผมรู้สึกไม่ชอบมาพา
กล รีบหันหัวจักรยานออก เสียงคนสองคนที่โคนต้นไม้หัวเราะตามมา เป็นเสียงที่
ผมเห็นว่า น่ากลัวยิ่งกว่ายายแม่มดในซอยเสียอีก
“อยู่บ้านหลังไหนวะ...เด็กนี่ เมื่อก่อนซอยนี้ไม่มีเด็กนี่หว่า มีแต่ยายแก่”
“หนูตัวเล็กน่ะ ท�าไมไม่ลงจากจักรยานล่ะ” อีกคนทัก
ผมหันหัวจักรยานได้ครึ่งเดียว และผู้ชายคนนั้นก็เดินมาถึง เขายกตัวน้อง
สาวขึ้นมาจากจักรยานพร้อมกับพูดด้วยน�้าเสียงเย็นๆ ว่า “ลงมา...มานี่สิพี่มีขนมให้
กิน”
ผมนึกค�าที่พ่อเคยสอนทันที ถ้าเจอคนแปลกหน้าห้ามกินน�้ากินขนม “อย่า
นะ จี้ อย่ากิน พ่อสอนไว้ไม่ให้กิน”
33
ʶҺѹ¾Ãл¡à¡ÅŒÒ
01-288 Power of Thai People_Edit.indd 33 21/3/2561 BE 10:00