Page 74 - kpi17073
P. 74
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 73
ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์
การเมืองการปกครองที่ดี จะต้องเป็นการปกครองที่จะส่งเสริมการกินดีอยู่ดีให้ประชาชน
โดยหลักการก็เพื่อจะให้ประชาชนเลือกคนดีเข้าสภา เพื่อทำให้การปกครองนั้นเป็นสิ่งดีๆ แต่การ
เลือกตั้งเป็นการแข่งขันโดยที่นักการเมืองต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อลงทุนซื้อสิทธิ จึงพัวพันอยู่กับ
เงินที่ต้องกอบโกยหลังได้รับตำแหน่งทางการเมือง โดยในปัจจุบันนี้คนไทยที่ร่ำรวย เพียง 10%
ครอบครองพื้นที่ทางสังคมและเศรษฐกิจถึง 75% ของประเทศ การกระจายรายได้จึงไร้ความ
เป็นธรรม ประชานไม่สามารถเลือกตั้งคนดีเข้าสภาได้ ประชาชนก็จะต้องตกเป็นเหยื่อของ
นักเลือกตั้ง ที่เราอ้างว่าเป็นสิ่งที่ดี การเลือกตั้งแบบนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่มันเป็นอนาธิปไตย
มันไม่สามารถเป็นประชาธิปไตยได้เลย เราหลอกตัวเอง นอกไปจากนั้น สังคมบ้านเราไม่มี
วัฒนธรรมประชาธิปไตย สังคมที่มีวัฒนธรรมประชาธิปไตย จะไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง เพราะ
เขาเหล่านั้นจะต้องรักและหวงแหนสิทธิของตนเอง ความเป็นจริงของสังคมมันจึงเป็นแบบนี้ ดังนั้น
ผมเคยถามลูกศิษย์คนหนึ่งว่า ถ้าจะไปสมัครรับเลือกตั้งโดยเป็นนักการเมืองที่ดี มีเงินพอไหม
เขาตอบกลับผมว่า พอนะที่จะซื้อป้าย เตรียมทีม แต่ไม่สามารถพอที่จะซื้อแข่ง และถ้าไม่พอที่จะ
ซื้อแข่ง จึงทำให้การเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ใสสะอาดอย่างที่คาดหวังให้มันเป็น ผมจึงมี
ข้อเสนอในเรื่องของการเลือกตั้ง โดยพรรคการเมืองส่วนใหญ่ผูกพันกับนายทุนและนายทุนหลายคน
กลับเป็นเจ้าของพรรคด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเรายังมีกฎที่ให้ ส.ส.สังกัดพรรคอยู่มันก็จะเป็นสิ่งที่นายทุน
ชอบมาก เพราะบังคับได้ ควบคุมได้ แต่ถ้าเราให้ ส.ส.เป็นอิสระในการสังกัดพรรค เราก็จะเจอ
การขายตัวของนักการเมืองต่างๆอีก เหมือนที่เราเคยพบเจอมาในทางการเมืองไทยของบ้านเรา
แต่วิธีทางแก้ไขก็ยังมีอยู่ โดยผมขอเสนอไว้ดังนี้ หนึ่ง เราต้องเขียนกฎหมายว่าประชาชนสามารถ
บริจาคเงิน 1% ต่อพรรคการเมืองที่ตนชอบ ทำให้โปร่งใสดีกว่าพรรคการเมืองจะทำอย่างลับๆ
และพรรคการเมืองไปหาคนมาลงสมัครได้ด้วยความอิสระ ไร้การควบคุมจากเหล่านายทุน
จะทำให้คนดีได้มีสิทธิเข้ามาในทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น สอง พรรคการเมืองจะต้องมีการก่อตั้ง
ด้วยจำนวนคนที่มากขึ้น เฉลี่ยบ้างเป็นตามรายจังหวัด อาจจะ 1% ต่อหนึ่งจังหวัดกันไปเลย
เพื่อทำให้พรรคการเมืองใหญ่ขึ้นและเป็นพรรคการเมืองประชาชนอย่างแท้จริง สาม จะต้องมา
จากกรรมการพรรคในจังหวัดนั้นๆ เป็นผู้เสนอจะสามารถทำให้พรรคเป็นอิสระออกจากนายทุนได้
ผมได้มีโอกาสได้ดูผลโพลทางการเมืองว่า ประชาชนจำนวนมากต้องการเลือกตั้งนายกฯ
โดยตรง ผมจึงพบว่า จุดอ่อนคือ หนึ่ง จะต้องเป็นคนรวยที่เป็นนายกฯอย่างแน่นอน เพราะมัน
ต้องใช้ทุนทางการเมืองอย่างมหาศาล สอง ถ้าสมมุติได้คนที่ไร้สังกัดพรรค ได้มาจากการเลือกตั้ง
โดยตรง ก็จะเป็นปัญหาตรงที่ว่า การเสนอกฎหมายให้ผ่านสภา แล้วใครจะสนับสนุนนายกฯ และ
จะมีปัญหาตามมาอีก สาม ถ้าคนที่มาจากการเลือกตั้งนายกฯโดยตรง ตีตัวถือเสมือนพระมหา-
กษัตริย์ ก็ต้องสร้างกฎหมายขึ้นมาเพื่อควบคุมอีก สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดอ่อน
นอกจากนั้น ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้ว จะยังมีอย่างอื่นอีกไหม ผมก็ไปศึกษาการเลือกตั้ง
กรุงเทพมหานคร ไล่มาตั้งแต่สมัยพลตรีจำลอง ผลการวิจัยออกมาจากกระแสทางการเมือง ไม่ใช่
มาจากการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งเราๆ เปลี่ยนแปลงนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศ โดยถ้าให้
ประชาชนเลือกพรรคการเมือง และพรรคใดได้อันดับหนึ่ง มีเสียงเกินครึ่ง ก็ให้เป็นพรรคที่