Page 75 - kpi17073
P. 75
74 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
สามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาล และสามารถเลือกหัวหน้าพรรคได้และถ้านายกฯตาย ก็สามารถเลือกตั้ง
ใหม่ แต่ถ้าพรรคฝ่ายรัฐบาลคอรัปชั่น ก็ให้ตัดสินออก ไม่มีสิทธิ์ตั้งพรรครัฐบาลอีก แล้วให้พรรค
ลำดับที่สองเป็นแทน และถ้าหากเลือกพรรคการเมืองเด็ดขาดไม่ได้ ก็ให้ทั้งสองพรรคที่ได้คะแนน
เสียงมากที่สุด มาเลือกกันใหม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้การซื้อสิทธิ์ขายเสียงน้อยลง ถ้าเรา
สามารถลดอิทธิพลได้ มันจะทำให้ลดแรงจูงใจได้
ส่วนในด้านรัฐสภา ณ ตอนนี้ ประเทศควรจะมีสองสภา โดยในประเด็นของวุฒิสภานั้น
เรามีการพูดคุยอยู่บ่อยครั้งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดเวลา ทั้งเลือกตั้ง สรรหา โดยผมขอเสนอ
แนวทางแก้ไขปัญหา โดยอยากให้เลือกมาจากกลุ่มอาชีพ เช่น สภาทนายความ แพทย์ ศาล
สหภาพแรงงาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ อาจจะเป็นทางออกให้แก่วุฒิสภาไทย เพราะองค์กรวิชาชีพอาจ
จะมีคุณวุฒิและการน่าเชื่อถือหรือไม่ก็เพื่อทำหน้าที่ต่างๆ แต่การมีวุฒิสภานั้นก็ต้องย้อนกลับมาดู
เรื่องของอำนาจกันอีกเล็กน้อย ว่าวุฒิสภาจะมีอำนาจอย่างไร ถ้าวุฒิสภาที่มาจากเลือกตั้ง
ครึ่งหนึ่ง สรรหาครึ่งหนึ่งเลย แบบของอังกฤษ อำนาจในการตรวจสอบอาจจะน้อยลง แต่ถ้า
เป็นแบบอเมริกาที่มีวุฒิสภาทั้งหมดมาจากการเลือกตั้ง ถ้าเป็นวุฒิสภาแบบของฝรั่งเศสที่มาจาก
ทางอ้อมนั้น อำนาจหน้าที่ก็อาจจะมีอยู่มาก
สุดท้ายในประเด็นการบริหารราชการแผ่นดิน คือรัฐมนตรีตั้งปลัดกระทรวง ซึ่งปลัด
กระทรวงนั้นมีหน้าที่แต่งตั้งบุคคลต่างๆ แต่ถ้ารัฐมนตรี อยากล้วงลูกอำนาจของปลัดกระทรวงโดย
การบังคับให้แต่งตั้งบุคคลต่างๆ ไปดำรงตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ซึ่งถ้าปลัดไม่ยอมก็อาจจะโดน
รัฐมนตรีปลดออกจากตำแหน่งได้ ผมอยากให้มีการแก้ไขกลไกในการแต่งตั้งบุคคลต่างๆ ต้องผ่าน
ความเห็นชอบของวุฒิสภา โดยมีการตรวจสอบรายชื่ออย่างเปิดเผย และให้ความเห็นชอบ โดย
วุฒิสภารับรอง อันนี้อาจจะนำไปสู่ทางหนึ่งที่แก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ จะทำอย่างไรให้ลดการ
ซื้อสิทธิขายเสียงของ ส.ส.ในแต่ละจังหวัด และการเพิ่มความเป็นอิสระแก่ ส.ส.ไม่ต้องสังกัด
พรรคการเมืองได้นั้น ผมขอเสนอว่า เอาจังหวัดเป็นเขตได้ไหม เลือกกันเป็นจังหวัดเลย ทั้งแบบ
บัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต โดยการเลือกมาจากจังหวัดเดียวกัน ทำให้การซื้อสิทธิขายเสียง
ยากขึ้น ลำบากขึ้น อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาก็เป็นไปได้
นายชวน หลีกภัย
จริงๆ แล้ว ตามที่ท่านสมบัติพูดว่า มี ส.ส.ซื้อสิทธิขายเสียงนั้น ก็ถือว่าเป็นความจริง ในยุค
ที่ผมเป็นรัฐบาลในยุคแรก ซึ่งสมัยนั้นเรียกกันว่ายุคปลาทูเค็ม คำว่าซื้อสิทธิขายเสียงสมัยนั้นยังไม่
เป็นที่รู้จักกัน แล้วถามต่อไปว่ามีใครเคยมาให้ผมซื้อเสียงหรือให้เงินสนับสนุนอะไรแบบนั้นไหม
ผมบอกได้ว่าไม่มี แม้แต่เหล้าขวดเดียวตามบ้านนอกผมก็ยังไม่ได้เลย ถ้าชาวบ้านมาขอนะ เพราะ
ผมถือว่า ผมยอมไม่ไปสอบเป็นผู้พิพากษาศาล เพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทน สิ่งแบบนี้
ผมไม่ทำหรอก ถ้าต้องมาจ่ายเงินอะไรแบบนั้นก็ไม่รู้จะมาสมัครทำไม แต่ถือว่ายังโชคดีว่ายังไม่
ค่อยมีการใช้เงิน แต่ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา โลกมีการเปลี่ยนแปลง การซื้อเสียง
กลายเป็นเรื่องธรรมชาติจากสมัยก่อนเคยมองว่า การซื้อเสียงเป็นเรื่องแปลก นอกไปจากนั้น