Page 528 - kpi17073
P. 528
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 527
“ของนักการเมือง” “โดยนักการเมือง” และ “เพื่อนักการเมือง” ไปแบบถาวร โดยมีคำว่า
การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการรับรองความชอบ
ธรรมแบบปลอมๆ ให้กับบุคคลกลุ่มนี้
ทางเลือกของการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเมืองระดับใหญ่ที่น่าจะมี
ประสิทธิภาพทางหนึ่งก็คือ การเปิดเวทีสาธารณะร่วมกันของภาคประชาชนในลักษณะของการ
สานเสวนา เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาปรึกษาหารือและหาข้อยุติในความคิดเห็นที่แตกต่างร่วมกัน
จนนำไปสู่การเกิดขึ้นของประชาสังคม (Civil Society) ที่เข้มแข็ง จากนั้นจึงใช้เป็นมติของ
ประชาชนเพื่อนำเสนอต่อผู้บริหารประเทศ ซึ่งการกระทำเช่นนี้น่าจะสามารถทำให้การมีส่วนร่วม
ภาคประชาชนมีความเข้มแข็งในการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองและการตรวจสอบถ่วงดุล
มากกว่าการเคลื่อนไหวแบบกระจัดกระจาย หรือเป็นการเมืองแบบฝูงชน (Political of Mass
Society) อย่างที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากการกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการจัด
ระเบียบทางความคิดของกลุ่มคนที่มีความแตกต่างหลากหลายมาขั้นหนึ่งแล้วจึงนำเสนอต่อ
ผู้มีอำนาจ ทำให้เกิดอำนาจของการต่อรองจากองค์กรภาคประชาชนที่มีความเข้มแข็ง เป็น
ระเบียบ ไม่ถูกปราบปรามและถูกจับกุมคุมขังเพียงเพราะผู้มีอำนาจทางการเมืองมองว่า
ประชาชนที่พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองเหล่านั้นอยู่ในสถานะ “ผู้ก่อกวน” ทั้งที่ความ
จริงแล้ว ผู้มีอำนาจทางการเมืองทั้งหลายก็ล้วนเป็นตัวแทนที่ประชาชนเลือกให้เข้าไปดำรงตำแหน่ง
เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม
บทสรุป
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า การพัฒนาการปกครองระบอบประชาธิปไตยให้มี
ความเจริญรุ่งเรืองบนฐานของประชาชนนั้น มีความสำคัญควบคู่ไปกับการพัฒนาพัฒนา
ประชาธิปไตยในเชิงระบบ โดยเราสามารถนำแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นพลเมือง ทุนทางสังคม
และการมีส่วนร่วมมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยได้ เพราะแนวคิดทั้งสามเป็นสิ่งที่มีความเชื่อมโยงกับการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอยู่ค่อนข้างมากและสามารถนำมาเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ เพียงแต่เราจำเป็นต้องมี
การมองแนวคิดเหล่านี้ในเชิงวิพากษ์เพื่อนำสาระสำคัญที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้กับการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตย โดยแนวคิดความเป็นพลเมืองเป็นเรื่องของการส่งเสริมให้ประชาชน
ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างรุกเร้า (Active) ในทุกระดับ มิใช่
เป็นเพียงผู้ขอรอรับเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญคือ ประชาชนทุกคนจะต้องมีจิตสำนึกที่ดีงาม
ตามเจตนารมณ์ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับผิดชอบต่อส่วน
รวม การมีจิตสาธารณะ การรู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเอง ฯลฯ รวมถึงจะต้องมีคุณสมบัติของ
ความเป็นพลเมืองต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น หากพบสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามครรลองของ
ประชาธิปไตยก็จะต้องไม่ทำตัวแบบ “เอาหูไปนาเอาตาไปไร่” แต่จะต้องมีจิตสำนึกในการเข้าไป
ร่วมแก้ไขสิ่งเหล่านั้นให้ถูกต้อง ซึ่งการสร้างทุนทางสังคมให้มีความเข้มแข็งก็ถือเป็นแนวทางสำคัญ การประชุมกลุ่มย่อยที่ 5
ที่จะทำให้ประชาชนมีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากทุนทางสังคมเป็นเรื่องของเครือข่าย