Page 162 - kpi16607
P. 162
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
(4) อภัยทานทำให้การยึดมั่นในตัวตนสลายลง สามารถคลี่คลายความ
ขัดแย้งสู่การปรองดองได้ นับว่าพุทธศาสนามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสู่
ความปรองดองผ่านทางอภัยทาน ขอยกข้อความที่โพสต์โดย
พระไพศาล วิสาโลเกี่ยวกับหลวงพ่อคำเขียนในเฟสบุค kanlayanatam
ดังนี้ “วิสัยคนหนุ่มอย่างข้าพเจ้า เมื่อเกิดเรื่องวิวาทบาดหมางขึ้นมา
ก็จะนึกถึงการหาตัวคนผิดมาลงโทษทันที โดยไม่ได้ตระหนักว่าวิธีนี้
อาจไม่แก้ปัญหาเลย บางครั้งอาจสร้างปัญหาขึ้นใหม่ นั่นเป็น
ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าพบว่า การยึดติดใน “ความถูกความผิด” ก็
สามารถก่อปัญหาได้ แท้จริงแล้วยังมีวิธีที่ดีกว่านั้น...”
ลองมาพิจารณาเหตุการณ์หนึ่งในประวัติพระพุทธเจ้า:
พระเจ้าอชาตศัตรูตรัสต่อพระพุทธเจ้าว่า “โทษได้ครอบงำหม่อมฉัน
ซึ่งเป็นคนเขลา คนหลง ไม่ฉลาด หม่อมฉันได้ปลงพระชนมชีพ
1 4 พระบิดาผู้ดำรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรมเพราะเหตุแห่งความ
เป็นใหญ่ ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงรับทราบความผิดของหม่อมฉัน
โดยเป็นความผิดจริง เพื่อสำรวมต่อไป”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “จริง จริง ความผิดได้ครอบงำ
มหาบพิตรซึ่งเป็นคนเขลา คนหลงไม่ฉลาด มหาบพิตรได้ปลง
พระชนมชีพพระบิดาผู้ดำรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เพราะเหตุ
แห่งความเป็นใหญ่ แต่เพราะมหาบพิตรทรงเห็นความผิดโดยเป็น
ความผิดจริงแล้ว ทรงสารภาพตามเป็นจริง ฉะนั้น อาตมภาพขอรับ
ทราบความผิดของมหาบพิตร ก็การที่บุคคลเห็นความผิด โดยเป็น
ความผิดจริงแล้วสารภาพตามเป็นจริงรับสังวรต่อไป นี้เป็นความ
ชอบในวินัยของพระอริยเจ้าแล” (ดู http://www.phuttha.com/)
ขอยกเรื่องสุวรรณสามชาดกมาเล่าให้ฟังบ้าง พระเจ้าปิลยักษ์ กษัตริย์
เมืองพาราณสี ล่าเนื้อในป่าหิมพานต์ตามลำพัง เสด็จมาถึงแม่น้ำ
มิคสัมมตา เห็นสุวรรณสามมีฝูงสัตว์ป่าอยู่ด้วยอำนาจเมตตาบารมี
พระเจ้าปิลยักษ์ทรงประสงค์จะรู้ว่าเป็นใคร จึงยิงศรถูกสุวรรณสาม
สถาบันพระปกเกล้า