Page 114 - kpi16607
P. 114
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ประการที่หนึ่ง Kenneth Arrow นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลได้พิสูจน์
แล้วว่า ไม่มีกลไกใดที่สามารถรับประกันได้ว่า การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจะได้
ผลที่สมเหตุสมผล (rational) สอดคล้องกับความต้องการของผู้ลงคะแนนเสียง
อย่างแท้จริง ดังที่เรียกกันว่า Arrow’s Impossibility Theorem ซึ่งมีนัยว่ารัฐบาล
ที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยไม่มีความชอบธรรมในการเป็น
ตัวแทนซึ่งสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
ประการที่สอง การใช้เสียงข้างมากอาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า
“ทรราชเสียงข้างมาก” (tyranny of the majority) คือการที่เสียงส่วนใหญ่
เอาเปรียบเสียงส่วนน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่รู้จักกันดีในทางรัฐศาสตร์ เช่น รัฐบาล
ที่มาจากเสียงข้างมากอาจออกกฎหมายกีดกันคนกลุ่มน้อย ดังตัวอย่างของการที่
รัฐบาลพรรคอัมโนของมาเลเซีย เลือกปฏิบัติต่อคนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีนและ
อินเดีย ด้วยนโยบายภูมิบุตร โดยอ้างว่าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
10 ปัจจุบัน ซึ่งสามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้เอาเปรียบคนในอนาคต ซึ่งไม่
ประการที่สาม ซึ่งไม่ค่อยได้พูดถึงกันในวงการรัฐศาสตร์คือ การที่คนรุ่น
สามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้ เพราะคนในอนาคตยังไม่ได้เกิดหรือเกิดมา
แล้วแต่ยังมีอายุไม่ถึงเกณฑ์มีสิทธิลงคะแนนเสียง ประชาธิปไตยเสียงข้างมาก
จึงสะท้อนเฉพาะเสียงข้างมากของคนในปัจจุบัน ซึ่งทำให้คนรุ่นในปัจจุบันสามารถ
เอาเปรียบคนในอนาคตด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำเอาเงินในอนาคตมาใช้ด้วย
การสร้างหนี้ โดยให้คนในอนาคตเป็นผู้แบกรับภาระหนี้ เป็นต้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ประชาธิปไตยโดยเสียงข้างมากจึงอาจไม่สอดคล้องกับ
ประโยชน์ร่วมของสังคม (common good) เสมอไป การเมืองในระบอบ
ประชาธิปไตยโดยเสียงข้างมากจึงต้องการกลไกทางสถาบันในการตรวจสอบและ
ควบคุมเสียงข้างมาก เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเสียงข้างน้อยในปัจจุบันและ
คนรุ่นต่อไป
ในประเทศกำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีความเหลื่อมล้ำในทาง
เศรษฐกิจสูง ตัวอย่างรูปธรรมของการใช้เสียงข้างมาก ที่อาจไม่สอดคล้องกับ
ประโยชน์ร่วมของสังคมคือ การดำเนินนโยบายที่เรียกว่า “นโยบายประชานิยม”
(populist policy)
สถาบันพระปกเกล้า