Page 41 - kpi12821
P. 41
ณรงค์เดช สรุโฆษิต
(2) การทำหน้าที่ของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งเช่น การคัดเลือก
ผู้แทนของพรรคเพื่อส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง การส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัคร
ในการเลือกตั้งแบบสัดส่วน การหาเสียงเลือกตั้ง ฯลฯ และ
(3) การเงินของพรรคการเมือง และการให้ความสนับสนุนทางการเงินและ
อื่นๆ แก่พรรคการเมืองโดยรัฐ เพื่อลดทอนโอกาสทุจริตของบรรดา
นักการเมือง และเพื่อให้ระบบการเมืองโดยรวมเกิดความโปร่งใสและ
ตรวจสอบได้มากยิ่งขึ้น
หลายประเทศควบคุมพรรคการเมืองเฉพาะในลักษณะที่ 2 ผ่านกฎหมาย
เลือกตั้ง (Electoral Law) หรือกฎหมายว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง (Election
Campaign Law) ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Countries) ส่วนมากมัก
จะควบคุมทั้งลักษณะที่ 2 และ 3 โดยอาศัยทั้งกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายว่าด้วยการหา
เสียงเลือกตั้ง และกฎหมายเกี่ยวกับการเงินของพรรคการเมืองหรือการสนับสนุน
พรรคการเมืองโดยรัฐ แต่กระนั้นก็ดี ยังมีอีกหลายประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่
เคยเผชิญปัญหาที่มาจากพรรคการเมือง หรือประเทศประชาธิปไตยเกิดใหม่ (New
Democracies) จะควบคุมทั้ง 3 ลักษณะ โดยมีกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองเป็นการ
เฉพาะ (Comprehensive Political Parties Laws) ดังเช่น สเปน โปรตุเกส รัสเซีย
โรมาเนีย ตุรกี เกาหลีใต้ ยูเครน อาร์เจนติน่า ฯลฯ ซึ่งการควบคุมพรรคการเมืองทั้ง
3 ลักษณะเช่นนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยเหตุที่กฎหมายพรรคการเมืองไทยจัดอยู่ในกลุ่มที่ว่ามานี้ ดังนั้น งาน
วิจัยฉบับนี้จึงมุ่งศึกษาเฉพาะกฎหมายของประเทศที่ควบคุมพรรคการเมืองทั้ง 3
ลักษณะเป็นหลัก
8.2 การกำหนดให้พรรคการเมืองต้องจดทะเบียนหรือ
จดแจ้งการจัดตั้ง
ในประเทศประชาธิปไตยดั้งเดิมเช่น อังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี
การรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองเป็นสิทธิตามธรรมชาติของบุคคล (Natural Rights)
3
ไม่จำเป็นต้องอาศัยการรับรองจากรัฐ ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการสร้างเจตจำนง
3 อันที่จริง นักกฎหมายสำนักปฏิฐานนิยม หรือสำนักกฎหมายฝ่ายบ้านเมือง (Positivism) อาจแย้งว่า
เสรีภาพในการรวมกลุ่มนี้เป็นเสรีภาพที่รับรองโดยกฎหมายลายลักษณ์อักษร คือ รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นที่มี
ค่าบังคับเสมอด้วยรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เหตุที่การรวมกลุ่มของบุคคลในแต่ละครั้ง ไม่ว่าเป็นการถาวรหรือชั่วคราว
ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตหรือต้องได้รับการรับรองจากรัฐอีกนั้น หาใช่เพราะเป็นไปตามแนวคิดสำนักกฎหมาย
ธรรมชาติไม่