Page 109 - kpi11530
P. 109
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๒๕๔๘ โดยได้มีการทำบันทึกต่อท้ายสัญญาเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๔๕
หลังจากนั้นได้มีการก่อสร้างเรื่อยมาจนเกิดภาวะน้ำท่วมอีกในช่วงปลาย
เดือนกันยายน ๒๕๔๘ ทำให้งานก่อสร้างหยุดชะงัก ห้างหุ้นส่วนจำกัด
พิทักษ์ชัย จึงมีหนังสือลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๘ ถึงประธานคณะ
กรรมการตรวจการจ้าง เพื่อขอขยายระยะเวลาตามสัญญาจ้างออกไปอีก
๔๕ วันนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญา ต่อมาสำนักงานองค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดสมุทรปราการได้มีหนังสือแจ้งห้างหุ้นส่วนจำกัด พิทักษ์ชัย ว่า
คณะกรรมการตรวจการจ้างมีมติไม่ขยายระยะเวลาก่อสร้าง ห้างหุ้นส่วน
จำกัด พิทักษ์ชัย มีหนังสืออุทธรณ์ต่อนายก อบจ. นายก อบจ. แจ้งตอบ
กลับว่าภาวะน้ำท่วมบริเวณสถานที่ก่อสร้างดังกล่าวเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
หากผู้ฟ้องคดีเห็นว่า มิใช่เหตุสุดวิสัยที่จะพิจารณาขยายระยะเวลาได้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ได้รับความเสียหาย พิทักษ์ชัย จึงได้มายื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาล
จากกรณีที่ไม่มีการ เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการตรวจการจ้างที่ไม่ขยายระยะเวลา
ขยายระยะเวลาก่อสร้าง ก่อสร้าง ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ห้างหุ้นส่วน
ตามสัญญา จำกัด พิทักษ์ชัย ยื่นอุทธรณ์
เป็นเหตุให้ต้องถูกปรับ ศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัย คำสั่งที่ ๘๑๒/๒๕๔๙ ว่า เมื่อ
เพราะเหตุส่งมอบงานล่าช้า สัญญาจ้างก่อสร้างถนนดังกล่าว ระหว่างผู้ฟ้องคดีกับ อบจ. ซึ่งเป็น
ผู้ฟ้องคดีก็ชอบ หน่วยงานทางปกครอง เป็นสัญญาที่จัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภค จึงเป็น
ที่จะฟ้องคดีต่อศาล สัญญาทางปกครอง โดยที่ข้อ ๒๑ ของสัญญาดังกล่าวกำหนดว่า ในกรณี
เพื่อขอคืนค่าปรับ ที่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใดๆ อันเนื่องจากความผิดหรือความบกพร่องของ
หรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ฝ่ายผู้ว่าจ้าง หรือพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดตาม
ในคดีได้ กฎหมาย ทำให้ผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามเงื่อนไขและ
กำหนดเวลาตามสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ว่าจ้างทราบ
เพื่อขอขยายเวลาทำงานออกไปภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่เหตุนั้น
สิ้นสุดลง และข้อ ๒๑ วรรคสอง กำหนดว่า การขยายกำหนดเวลาก่อสร้าง
ตามสัญญาอยู่ในดุลพินิจของผู้ว่าจ้างที่จะพิจารณาตามที่เห็นสมควร
สัญญาทางปกครอง 0