Page 61 - kpi10440
P. 61
คู่ มื อ ส ม า ชิ ก ส ภ า ท้ อ ง ถิ่ น
ดีหรือผลเสียต่อตนในอ้อมหรือไม่ (เชิงบริหาร เชิงทุน
ระหว่างบุคคล)
3.3) กรณีที่ถือว่า “ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย” เช่น
(1) สมาชิกสภาเทศบาลดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มองค์กรสตรี
ของเทศบาลและได้รับเงินอุดหนุนจากเทศบาลไปดำเนินงาน
ต่าง ๆ
(2) สมาชิกสภา อบต. ในนามของกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มเกษตรกร
ทำสัญญากู้เงินกับ อบต.
(3) คดีฟ้องร้องต่อศาลปกครองของเทศบาลตำบลวังสะพุง โดยมี
รายละเอียด ดังนี้
บริษัท ประทีปธรรม จำกัด มีหุ้นบริษัทรวม 10,000 หุ้น และมี
รายนามผู้ถือหุ้น ดังนี้ 1) พี่ชายสมาชิกสภาเทศบาล 4,000 หุ้น 2) น้องชายสมาชิกสภา
เทศบาล 4,000 หุ้น 3) อดีตภรรยาสมาชิกสภาเทศบาล 800 หุ้น 4) ลูกสาว (บรรลุ
นิติภาวะแล้ว) สมาชิกสภาเทศบาล 2 คน ๆ ละ 500 หุ้น รวม 1,000 หุ้น และ 4) บุคคล
ภายนอก 200 หุ้น
ต่อมาเทศบาลทำสัญญาจ้าง บ.ประทีปธรรมฯ เพื่อก่อสร้างถนน
ผู้ฟ้องคดีร้องขอให้ ผวจ.วินิจฉัยว่า สท. มีส่วนได้ในสัญญาไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมกับ
เทศบาลหรือไม่ ซึ่ง ผวจ. วินิจฉัยว่า สท. มิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียฯ อีกทั้งอัยการ และ
สคก. วินิจฉัยว่า กรณีไม่พอฟังว่า สท. เป็นผู้มีส่วนได้เสีย ต่อมาผู้ฟ้องน้องคดีจึงนำคดี
มาฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนคำวินิจฉัยของ ผวจ. ซึ่งศาลปกครองสูงสุด
มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า คำสั่งของ ผวจ. ที่วินิจฉัยว่า สท. ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียฯ เป็น
คำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
กรณีไม่ปรากฏว่า สท. มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับบริษัท แม้บุตร
ถือหุ้น แต่รวมกันก็เพียง 10% และไม่มีอำนาจบริหารจัดการหรือกระทำการใด ๆ ผูกพัน
สถาบันพระปกเกล้า