Page 373 - kpiebook67020
P. 373
372 การศึกษาการป้องกันวิกฤตสังคมในอนาคต
อาจท�าให้เกิดการใช้อ�านาจโดยมิชอบโดยธรรมชาติ ดังนั้นควรเพิ่มเงื่อนไขในบทบัญญัติ
ให้ผู้มีอ�านาจเหนือตลาดต้องท�าตามอย่างเคร่งครัด เช่น ต้องมีการจ่ายภาษีให้กับรัฐ
ตามสัดส่วนรายได้ที่เหมาะสมและควรมีเกณฑ์ห้ามไม่ให้ผู้มีอ�านาจเหนือตลาด
ท�าการควบรวมกิจการได้อีก และหากมีการฝ่าฝืนให้มีบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนเกณฑ์
ผู้มีอ�านาจเหนือตลาดตามข้อก�าหนดของคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า การก�าหนด
เงื่อนไขการลงโทษอาจแบ่งเป็นสองระดับ คือ ระดับของการเข้าข่ายการมีอ�านาจ
เหนือตลาด และระดับที่ใช้อ�านาจเหนือตลาดไปจ�ากัดการแข่งขัน จ�ากัดปริมาณสินค้า
และบริการ หรือจ�ากัดคู่แข่งขัน โดยการลดหลั่นโทษในแต่ละระดับตามความเหมาะสม
ในกรณีที่เห็นควรให้มีการยกเลิกเกณฑ์ผู้มีอ�านาจเหนือตลาด เพื่อให้การบังคับใช้
กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
และเปลี่ยนมาพิจารณาความผิดจากพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจแทน เช่น หากมี
ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้บริโภคสงสัยว่าผู้ประกอบธุรกิจรายใดมีพฤติกรรมหรือท�าให้
สงสัยว่าเป็นผู้มีอ�านาจเหนือตลาดและอาจส่งผลให้มีการผูกขาดทางการค้า มีพฤติกรรม
ที่ร่วมกันก�าหนดราคา การรวมกันก�าหนดราคาประมูล การแบ่งตลาดและจ�ากัดปริมาณ
การผลิตนั้น ให้กฎหมายสามารถเอาความผิดกับผู้ประกอบธุรกิจที่มีพฤติกรรมเหล่านี้
ได้ทันที (per se rule) (สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย, 2554) โดยที่ไม่ต้อง
พิสูจน์ความเสียหาย (ยกเลิกกระบวนการพิสูจน์ความผิด)
1.3) การแก้ไขกฎหมายหมวด 5 เรื่องการฟ้องคดีเรียกค่าเสียหาย กล่าวคือ
• แก้ไขกฎหมายโดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจและผู้บริโภคร่วมกันฟ้อง
เรียกร้องค่าเสียหาย ที่เป็นการฟ้องแบบกลุ่ม (Class Action) โดยไม่ผ่าน
คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (เปิดเสรีในการให้เอกชนและผู้บริโภค
รวมตัวกันในการฟ้องร้อง) โดยให้เอกชนที่ได้รับความเสียหายจาก