Page 331 - kpiebook67020
P. 331
330 การศึกษาการป้องกันวิกฤตสังคมในอนาคต
ทรมาน หรือกระท�าด้วยวิธีการใด ๆ เพื่อให้รับสารภาพ หรือยื่นข้อเสนอให้รับสารภาพ
เพื่อให้ได้รับการลดโทษ ทั้งนี้ โดยอาจมีหรือไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนทั้งที่เป็นตัวเงิน
ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด หรืออีกด้าน อาจกระท�าการเข้าลักษณะ “เป่าคดี”
หรือสรุปพยานหลักฐานในส�านวนคดีให้ไม่มีความผิด หรือความผิดเบาลง
3. แรงจูงใจในการกระท�าผิดมีมาก เนื่องจาก “วัฒนธรรมลอยนวล” และ
ผลประโยชน์ที่จะได้รับ แม้สังคมรับรู้ว่ามีการใช้อ�านาจหรือการกระท�าโดยมิชอบ
ในการสอบสวนคดีอาญา แต่การขาดพยานหลักฐานในช่วงเวลาการสอบสวน
(เพราะเป็นอ�านาจหน้าที่ของต�ารวจเท่านั้น) และปัจจัยเกี่ยวกับผู้เสียหาย ท�าให้
โอกาสในการถูกด�าเนินคดี และถูกลงโทษของผู้กระท�ามีน้อยมาก
4. ระบบอุปถัมภ์ ในมิติแรกคืออ�านาจชี้ผิดชี้ถูกในชั้นสอบสวนมีผลต่อส�านวน
คดีที่ผู้ถูกกล่าวหาจะถูกฟ้องร้องต่อศาลหรือไม่ แม้เป็นอ�านาจอัยการในการพิจารณา
ส�านวนสอบสวนและมีค�าสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ตาม และมิติความสัมพันธ์ในระบบอุปถัมภ์
มีการตอบแทนระหว่างกันทั้งในวงการของต�ารวจ และผู้เกี่ยวข้องอื่น
4.3.5 แนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตการสอบสวนคดีอาญา
จากกรณีศึกษาดังกล่าวข้างต้น ประกอบการศึกษาเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการ
ยุติธรรม การปฏิรูประบบสอบสวนคดีอาญา นับแต่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยศึกษาสภาพปัญหารากเหง้าอันน�าไปสู่วิกฤต
ความเชื่อมั่นในระบบสอบสวนคดีอาญาของไทย และประมวลสรุปแนวทางและข้อเสนอ
แนะเพื่อพัฒนาระบบการสอบสวนคดีอาญาของไทยให้มีประสิทธิภาพ เป็นส่วนส�าคัญ
ที่ท�าให้ระบบการอ�านวยความยุติธรรมทางอาญาได้รับความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น โดยมี
ทางเลือกส�าหรับการพิจารณาตัดสินใจ ดังนี้