Page 279 - kpiebook67020
P. 279
278 การศึกษาการป้องกันวิกฤตสังคมในอนาคต
ความส�าคัญของผู้เสียหายในกระบวนการยุติธรรม เป็นการเรียกร้องให้ผู้กระท�า
ความผิดรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ได้กระท�าขึ้นเหล่านั้น การน�ากระบวนทัศน์
ที่เป็นกระบวนการความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์จึงต้องมีการสร้างความตระหนักต่อ
ผลกระทบที่เกิดจากการกระท�าผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีต่อผู้เสียหาย โดยหน่วยงาน
ในกระทรวงยุติธรรมที่เกี่ยวข้องต้องมีการบูรณาการร่วมกันสร้างแผนความรับผิดชอบ
และข้อตกลงในลักษณะป้องกันหรือเกิดทางเลือกในการแก้ไขปัญหาเพื่อน�าไปสู่
ความสมานฉันท์ของสังคมอย่างแท้จริง
จุฑารัตน์ เอื้ออ�านวย (2550) ได้อ้างถึงทัศนะของ Susan Sharpe ว่า
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์เป็นแนวความคิดที่มีรากฐานแตกต่างจาก
การอ�านวยความยุติธรรมเชิงแก้แค้นทดแทนโดยมุ่งให้ความส�าคัญกับสิ่งซึ่งจ�าเป็นต้อง
ได้รับการการเยียวยา (ส�าหรับเหยื่ออาชญากรรม) สิ่งซึ่งควรแก้ไขปรับปรุง (ส�าหรับ
ผู้กระท�าความผิด) และสิ่งซึ่งควรเรียนรู้เมื่ออาชญากรรมเกิดขึ้นในสังคม (ส�าหรับชุมชน)
แนวคิดนี้ท�าให้เหยื่ออาชญากรรมเป็นศูนย์กลางของกระบวนการเกี่ยวกับอันตราย
และการชดใช้เยียวยา กล่าวคือเหยื่ออาชญากรรมเป็นผู้ก�าหนดว่าอันตรายที่ตนได้รับ
คืออะไรและการชดใช้เยียวยา ส�าหรับตนจะมีขนาดเท่าใด ขณะที่ชุมชนสามารถเข้ามี
ส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมการเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้กระท�าผิดให้การสนับสนุน
เหยื่ออาชญากรรม และประกันโอกาสในการแก้ไขฟื้นฟูตนเองของผู้กระท�าผิด นอกจากนี้
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ได้สะท้อนความเชื่อที่ว่าความยุติธรรมเป็นสิ่งที่
เข้าถึงได้และบรรลุถึงได้มากที่สุด หากสามารถด�าเนินการบรรลุเป้าหมายที่ว่า
1. มีการเห็นพ้องต้องกันระหว่างเหยื่ออาชญากรรม-ผู้กระท�าผิด-ชุมชน
ในเวทีที่จัดให้ทุกฝ่ายได้แสดงการมีส่วนร่วมกันต่ออาชญากรรม
ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง