Page 235 - kpiebook67020
P. 235

234  การศึกษาการป้องกันวิกฤตสังคมในอนาคต




        เกิดความเข้าใจร่วมกัน และการเยียวยาอันจะนาไปสู่การป้องกันมิให้เกิดเหตุ

        ความรุนแรงและความเสียหายอีกในอนาคต ซึ่งมีศาสตราจารย์ ดร.คณิต ณ นคร
        เป็นประธาน ได้สรุปสาเหตุของความขัดแย้งทางการเมือง เมื่อปี พ.ศ.2553 คือ
        ความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองเสมือนว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างบุคคลหรือ

        กลุ่มบุคคลที่ยึดมั่นในอุดมการณ์แตกต่างกันเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

        ได้หยั่งรากลึกถึงปัญหาในระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม ชนชั้น
        และการเมืองของประเทศ โดยความขัดแย้งนั้นเดิมอาจเริ่มจากความขัดแย้งระหว่าง
        บุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งมีความแตกต่างทางแนวคิดและอุดมการณ์อย่างชัดเจน และ

        มีความหวาดระแวงต่อการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

        ว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์หรืออานาจที่เคยมีอยู่เดิม ท�าให้เกิดการต่อต้าน
        การเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาสถานะเดิมของตนไว้มิให้เปลี่ยนแปลง (Status Quo)
        ความขัดแย้งระหว่างบุคคลและกลุ่มบุคคลในลักษณะดังกล่าว เมื่อประกอบกับ

        สภาพปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม (Socio-Economic Structures)

        ความเหลื่อมล�้าระหว่างชนชั้นในสังคม การเข้าแทรกแซงทางการเมืองของทหาร
        ด้วยการรัฐประหาร การใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการขยายผลความขัดแย้ง และ
        ความอ่อนแอของกลไกในระบอบประชาธิปไตยและกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะ

        อย่างยิ่งข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความสอดคล้องกับหลักนิติธรรมของกลไกของรัฐ

        ต่าง ๆ ท�าให้เห็นได้ว่าแท้จริงแล้ววิกฤตความขัดแย้งในประเทศไทยนั้นเกิดจาก
        รากเหง้าของปัญหาที่โยงใยกันอย่างซับซ้อน ไม่มีมูลเหตุใดเพียงล�าพังที่จะสามารถ
        อธิบายปัญหาความขัดแย้งได้
   230   231   232   233   234   235   236   237   238   239   240