Page 40 - kpiebook67014
P. 40

กลุ่มประชาชน เห็นว่าภาพรวมกระบวนการนั้นมีผู้ที่เข้าร่วมเป็นคนกลุ่มเดิม และกระบวนการที่มีการรับ
              ฟังความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับธรรมนูญเชียงคานอย่างเทศบัญญัตินั้น ควรมีระยะเวลาให้คนในชุมชนได้พิจารณา

              มากขึ้น โดยผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มภาคประชาชนเห็นว่าคนที่เข้ามามีส่วนร่วมเป็นคนกลุ่มเดิม เพราะชาวบ้านบาง
              คนไม่ได้รับข่าวสารจึงไม่รู้ข่าวการเคลื่อนไหวในการท ากิจกรรม ซึ่งอาจมีการประชาสัมพันธ์น้อย ขณะที่ชาวบ้าน
              บางคนอาจรู้เรื่องแต่ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมเพราะคิดว่าเป็นการเสียเวลา ซึ่งเทศบาลอาจประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึง
              กลุ่มที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ทราบวันและระยะเวลาในการร่วมออกแบบกิจกรรม ทั้งนี้

              ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นที่มีเนื้อหามาก อย่างเช่น การท าเทศบัญญัติ ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อให้เกิดกติกาของ
              คนในชุมชนโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนเอง พบว่า เวลาในการให้มีข้อชวนคิดชวนคุยอาจจ ากัดเกินไป ท าให้
              ขาดการวิเคราะห์ ซึ่งควรมีเวลาส่วนนี้ให้มากขึ้น
                     ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่มจากภาคประชาชนมีข้อคิดเห็นต่อการแนะน าให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

              อื่นหลายแบบทั้งการแนะน าให้เข้าดูสิ่งที่เทศบาลด าเนินการผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น คิวอาร์โค้ดที่สามารถเชื่อมเข้า
              ไปดูกิจกรรมที่เทศบาลด าเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมวัฒนธรรม หรือมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของเทศบาล
              ผ่านงานเทศกาล มีการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น แล้วเป็นต้นแบบน าร่องในพื้นที่อื่น
              ในสื่อที่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ดังเช่น การแข่งขันเรือยาวที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก นอกจากนี้ ในกิจกรรมที่มี

              ความซับซ้อนอย่างการร่วมใช้สิทธิในการออกแบบกติกาตนเอง อาจแนะน าให้ประชาชนในพื้นที่อื่นได้เห็นสิทธิ
              และความส าคัญของการมีส่วนร่วมโดยภาคประชาชน แนะน าเรื่องสิทธิประชาธิปไตย ยกตัวอย่าง
              พระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ.2565 ที่ประชาชนสามารถเสนอกฎหมายตัวเองได้ ซึ่งอาจ

              ท าให้ชุมชนตื่นตัวในหลายพื้นที่และมีตัวแบบในการเรียนรู้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่อื่นจะด าเนินการตามตัวแบบนี้
              หรือไม่
                     นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่มจากภาคประชาชนกล่าวถึงผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมทุนวัฒนธรรม
              ท้องถิ่นว่า เดิมชาวเชียงคานได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน เช่น มหาวิทยาลัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
              องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) วัฒนธรรมจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยราช

              ภัฎจังหวัดเลย อีกทั้งยังมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาศึกษาดูงานเรื่องทุนวัฒนธรรมในพื้นที่อีกหลาย
              หน่วยงาน การพัฒนาทุนวัฒนธรรมในพื้นที่ อาจมีหน่วยงานวิจัยจัดท าตัวแบบให้ แต่เทศบาลฯ ต้องเป็นหน่วยงาน
              ล าดับแรกที่เอื้อให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ ยกตัวอย่างในการออกเทศบัญญัติเพื่อเป็นกติกาชุมชน ซึ่งควร

              มีงบประมาณในการส่งเสริม รวมไปถึงเชื่อมโยงไปกับหน่วยงานระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพราะแม้ชุมชนเข้มแข็ง
              เพียงใดก็จ าเป็นต้องมีเครือข่ายเพื่อให้ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืนและอยู่ต่อไปอย่างมั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับผู้ให่
              สัมภาษณ์ที่เห็นว่า ควรมีการบูรณาการการท างานส่วนราชการ เช่น ตลาดต้องชม ตลาดต้องชิม ถนนวัฒนธรรม
              OTOP ท าให้เป็นเรื่องเดียวกัน (01 [สัมภาษณ์], 26 กรกฎาคม 2566)


                     4.3.6 ความรู้สึกมั่นคงในพื้นที่
                     ความรู้สึกมั่นคงในพื้นที่ เป็นข้อค าถามที่ว่าในปัจจุบัน ท่านรู้สึกว่ามีความมั่นคงในชุมชนของท่านหรือไม่
              อย่างไร เพราะอะไร พบว่า

                     กลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาล เห็นว่าความมั่นคงทางสังคมในพื้นที่ กลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่
              เทศบาลรู้สึกได้ว่า หลังจากนี้คนในชุมชนจะช่วยกันรักษา สืบสาน และปกป้องทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ได้ อีกทั้ง
              เห็นว่า คนเชียงคานได้เข้าไปมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการในการพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมในครั้งนี้ แม้ว่าอาจจะมี
              ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในบางครั้ง แต่ก็เป็นเรื่องปกติของทุกชุมชน และที่ส าคัญคือ กระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้มา







                                                          - 37 -
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45