Page 57 - kpiebook67002
P. 57

ช่องทางการสื่อสารเป็นสื่อกลางที่ท าหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างรัฐสภาและประชาชน จึงควรเปิดพื้นที่ให้

               ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่าการโฟนอินเข้ามาในรายการ การเปิดให้ประชาชนโฟนอินเข้ามานั้นเหมือน
               จะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ความเป็นจริงก็ไม่สามารถท าให้ประชาชนเข้าถึงเนื้อหา

               สาระส าคัญหรือแก่นได้  เช่น ในกระบวนการออกกฎหมาย ที่ประชาชนไม่เคยมีพื้นที่เสนอความเห็นอย่าง

               จริงจังต่อกฎหมายที่มีผลกระทบต่อตนเอง หรือกฎหมายที่ประชาชนรวบรวมรายชื่อเสนอเข้าไปก็ไม่มีพื้นที่ให้
               ประชาชนได้น าเสนอความคิด ความเห็น หรือเหตุผลมากนัก จึงควรมีการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนสามารถรับรู้

               เข้าใจ และเข้าถึงเนื้อหาสาระของกฎหมายแต่ละฉบับ และจ าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาเพื่อ
               เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมพร้อมทั้งดึงดูดกลุ่มผู้ฟังให้มีความหลากหลายมากขึ้น ช่อง

               ทางการสื่อสารของรัฐสภาต้องท าให้รัฐสภามีความเชื่อมโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นเพื่อให้การ
               ด าเนินงานของสถานีวิทยุรัฐสภามีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น สามารถด าเนินการได้ดังนี้ 1) ส าหรับการถ่ายทอด

               เสียงเรื่องการประชุมรัฐสภา อาจมีการแจ้งให้ผู้ฟังทราบถึงระเบียบวาระการประชุมในแต่ละครั้ง 2) การท า

               สรุปสาระส าคัญของการร่างพระราชบัญญัติที่จะเข้าสู่การพิจารณา รวมถึงสาระส าคัญของญัตติและกระทู้ถาม
               ต่าง ๆ 3) การน าเสนอข่าวในแวดวงรัฐสภาให้น่าสนใจและดึงดูด และ 4) การท าสรุปผลการประชุมของ

               คณะกรรมาธิการ นอกจากนี้สถานีวิทยุรัฐสภาอาจมีการพัฒนาเนื้อหาโดยการน าเนื้อหาค าอภิปรายของสมาชิก

               รัฐสภาแต่ละท่านมาน าเสนอเพิ่มเติมในรูปแบบที่หลากหลาย และเห็นควรให้เพิ่มข่าวสารการท างานของ
               การเมืองท้องถิ่น การเมืองภาคประชาชน และการเชื่อมโยงข้อมูลของรัฐสภากับส านักข่าวต่าง ๆ

                       สถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภามีความโดดเด่นในแง่ที่เป็นสถานีวิทยุที่ให้ความรู้ด้านนิติบัญญัติกับ

               ประชาชนที่ผลิตโดยรัฐสภาเอง จึงอาจใช้สิ่งนี้ในการดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยการปรับเปลี่ยนให้ภาค

               ประชาชนหรือภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม เปลี่ยนการสื่อสารจากในฐานะผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้รับ
               ข้อมูลโดยเชื่อมโยงกับท้องถิ่นให้มากขึ้น  ยิ่งกว่านั้นสถานีวิทยุรัฐสภายังเป็นสถานีที่มีข้อได้เปรียบ
                                                    57
               ค่อนข้างมากหากเปรียบเทียบกับสถานีวิทยุรายอื่น เนื่องจากสถานีวิทยุรัฐสภา อยู่ใกล้ชิดกับแหล่งข่าวทางการ
               เมืองมากที่สุด สามารถติดตามข้อมูลได้ทันเหตุการณ์ ที่ส าคัญกว่านั้นคือ กรอบการด าเนินงานของสถานีวิทยุ

               รัฐสภาก็มีความชัดเจนในแง่ของการน าเสนอข่าวสารเกี่ยวกับรัฐสภาสู่ประชาชน อีกทั้งยังเป็นสถานีวิทยุเพียง

               แห่งเดียวที่มีเครือข่ายครอบคลุมมากที่สุด แต่ด้วยปัญหาอุปสรรคในการด าเนินงานของสถานีวิทยุรัฐสภาที่
               ส่งผลให้การด าเนินงานไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขาดแคลนบุคลากรที่มี

               ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมไปถึงปัญหาเรื่องงบประมาณ  รวมทั้งระเบียบราชการ ดังนั้นการปรับเปลี่ยน
                                                                 58
               โครงสร้างการบริหาร โดยให้สถานีวิทยุรัฐสภามีความสามารถในการตั้งงบและสามารถจัดจ้างบุคลากรที่มี

               ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ด้วยตนเอง น่าจะเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพการด าเนินงานของสถานีวิทยุ
                                59
               รัฐสภาได้เป็นอย่างดี  ที่ส าคัญการส ารวจความต้องการ ความคิดเห็นของประชาชนว่าประชาชนต้องการรับ


               57  ณัฐพร บูรภักดิ์, บทบาทของสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาภายหลังการปฏิรูปสื่อ, น. 69-82.
               58  สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2566.
               59  มันทนา ศรีเพ็ญประภา, การจัดผังรายการของสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผยแพร่ข้อมูล
               ข่าวสาร, น. 42 -57.


                                                           56
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62