Page 56 - kpiebook67002
P. 56
ทั้งประเทศเพื่อเป็นการขยายกลุ่มผู้ฟัง และท าให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภากับประชาชนขยายวงกว้างมาก
ขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าสถานีวิทยุรัฐสภามีความพยามที่จะท าให้การออกอากาศทางวิทยุขยายไปสู่
ประชาชนในวงกว้างมากขึ้นโดยการเพิ่มช่องทางเว็บไซต์เพื่อเป็นฐานข้อมูลและเอื้อต่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมใช้
แพลตฟอร์มออนไลน์ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ในส่วนนี้จึงถือว่าเป็นการพัฒนาช่องทางการสื่อสารในส่วน
ของวิทยุรัฐสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์ประชาชนในหลายช่วงวัยให้เข้าถึงสื่อของรัฐสภา และเป็น
การเพิ่มช่องทางการสื่อสารส าหรับประชาชนในการตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติ โดยผู้ฟังสามารถสืบค้นข่าววิทยุ
รัฐสภาได้ทางเว็บไซต์ของรัฐสภา www.Parliament.go.th หรือทางเว็บไซต์ของสถานีวิทยุและโทรทัศน์
รัฐสภา www.tpchannel.org นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดรายการวิทยุทางอินเตอร์เน็ต โดยร่วมกับส านัก
สารสนเทศในการถ่ายทอดรายการวิทยุซึ่งต้องดาวน์โหลด RealPlayer เพื่อรับฟังสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา ซึ่ง
เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายการสื่อสารให้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งประเทศ
ในช่วงแรกของการด าเนินงานของสถานีวิทยุรัฐสภาอยู่บนฐานคิดประชาธิปไตยแบบตัวแทน ไม่ได้
ขยายไปสู่การเมืองภาคประชาชนที่ให้ประชาชนได้เข้ามาใช้พื้นที่สื่อของรัฐสภา อีกทั้งรัฐเองก็ไม่ได้ปล่อยให้
ประชาชนมีพื้นที่ในสื่อ เนื่องจากรัฐยังต้องการยึดอ านาจครอบครองสื่อเอาไว้ เพราะตั้งแต่แรกก่อตั้งสื่อวิทยุ
56
รัฐสภาถูกสร้างมาเพื่อให้นักการเมืองเข้ามาใช้พื้นที่ โดยไม่ได้มีประชาชนในโครงสร้างดังที่กล่าวไปข้างต้น
ดังนั้นจึงจ าเป็นที่จะต้องมีปรับเปลี่ยนให้ประชาชนเข้ามาใช้สื่อของรัฐสภามากกว่าการโฟนอินหรือแสดงความ
คิดเห็นผ่านกล่องข้อความ ซึ่งอาจท าในรูปแบบของการเชิญภาคประชาชนเข้าไปร่วมแลกเปลี่ยนในรายการ
ต่าง ๆ ของสถานีวิทยุรัฐสภาให้มากขึ้น
ส าหรับด้านเนื้อหาของสถานีวิทยุรัฐสภา เน้นไปที่การให้ความรู้ทางด้านการเมืองการปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ได้สนใจความรู้หรือความเคลื่อนไหวของประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นจริงในสังคม
จากการส ารวจ พบว่าสัดส่วนรายการของสถานีวิทยุรัฐสภาแบ่งเป็นรายการประเภทให้ความรู้ด้านการเมือง
การปกครองและประชาธิปไตย การถ่ายทอดสดการประชุมรัฐสภา รายการประเภทข่าวและรายการประเภท
บันเทิงและสาระความรู้ทั่วไป ในส่วนของเนื้อหารายการที่เปิดเวทีให้กับประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดง
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ พบว่ามีน้อยมาก แม้ว่าจะเห็นความพยายามของสถานีวิทยุรัฐสภา
ในการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังขาดการกระตุ้นให้
ประชาชนมีความสนใจทางด้านการเมือง หรือสนใจในการอภิปรายของรัฐสภาในแต่ละครั้งให้มากขึ้น หรือ
แม้กระทั่งการเป็นเวทีกลางให้ประชาชนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่ส าคัญพบว่าประชาชนที่เข้ามามีส่วน
ร่วมยังจ ากัดแค่เพียงบางกลุ่ม ไม่มีความหลากหลาย แม้ว่าจะมีการเชิญสมาชิกรัฐสภา นักวิชาการจาก
หน่วยงานต่าง ๆ มาเป็นวิทยากรร่วมแลกเปลี่ยนในรายการ แต่รายการส่วนใหญ่ยังเป็นการสื่อสารทางเดียว
(one way communication) ส าหรับตัวอย่างรายการที่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังหรือประชาชนมีส่วนร่วมในการ
แสดงความคิดเห็น เช่น รายการ สว. ฟังประชาชน รายการการเมืองเรื่องของประชาชน รายการเวทีประชาชน
รายการจากกรรมาธิการคณะต่าง ๆ เป็นต้น โดยให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทางโทรศัพท์
56 ณัฐพร บูรภักดิ์, บทบาทของสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาภายหลังการปฏิรูปสื่อ, น. 57.
55