Page 34 - kpiebook66025
P. 34
34 การรวมกลุ่มในรัฐสภาเพื่อกิจกรรมทางการเมืองของรัฐสภาอินโดนิเซีย
เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ได้เข้าสาบานตนเข้ารับต�าแหน่ง สภาผู้แทนราษฎร
มีประธานสภา 1 คน และรองประธานสภา 3 คน ที่มาจากการเลือกตั้งในที่ประชุม
สภาผู้แทนราษฎร
รัฐธรรมนูญปี 1945 หมวด 7 มาตรา 19 ถึงมาตรา 22 ได้ก�าหนดถึงโครงสร้าง
ที่มาและบทบาทอ�านาจหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ
ปรากฏในกฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งทั่วไป เลขที่ 12/2003
กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง เลขที่ 31/2003 กฎหมายว่าด้วยโครงสร้างและ
องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนภูมิภาค และสภาที่ปรึกษาประชาชน
นอกจากนี้ ในรัฐธรรมนูญยังได้ก�าหนดให้สภาผู้แทนราษฎรต้องประชุมไม่น้อยกว่า
หนึ่งครั้งต่อปี อีกทั้งมีข้อก�าหนดว่าพรรคที่จะมีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้นั้น
จะต้องได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อยร้อยละ 2.5 เพื่อป้องกันไม่ให้มีพรรคการเมือง
ขนาดเล็กมากเกินไปเข้าไปในท�าหน้าที่ในรัฐสภา ทั้งนี้การเลือกตั้งประธานาธิบดีกับ
สภาผู้แทนราษฎรจะต่างช่วงเวลากัน อันหมายความว่า ผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี
กับพรรคที่ได้ครองที่นั่งเป็นอันดับหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรอาจอยู่กันคนละฝ่ายกันก็ได้
สภาผู้แทนราษฎรอภิปรายร่างกฎหมายแต่ละฉบับร่วมกับประธานาธิบดี
เพื่อเห็นชอบร่วมกัน นอกจากพิจารณาร่างกฎหมายแล้วนั้น ยังมีหน้าที่พิจารณาเกี่ยวกับ
งบประมาณ และตรวจสอบการท�างานของฝ่ายบริหาร โดยผู้ที่สามารถเข้ามาท�า
หน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้นั้น ต้องเป็นผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง
และหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใดลาออกจากพรรคที่สังกัดแล้วไม่ได้เข้าสังกัด
พรรคอื่นในเวลาที่ก�าหนด ผู้นั้นจะต้องออกจากต�าแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
อ�ำนำจหน้ำที่ของสภำผู้แทนรำษฎรอินโดนีเซีย ได้แก่
1) มีอ�านาจหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการตรากฎหมาย และสามารถเสนอ
ร่างกฎหมายโดยผ่านการหารือกับประธานาธิบดีเพื่อให้ได้มติร่วมกัน
หากกฎหมายผ่านสภาแล้ว แม้ว่าประธานาธิบดียังไม่ได้ลงนามรับรอง
ภายใน 30 วันให้ถือว่ากฎหมายนั้น สามารถบังคับใช้ได้และชอบด้วยกฎหมาย