Page 7 - kpiebook66022
P. 7

การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
                                                  โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)

            รวมทั้งสิ้น 103 คน โดยมีกระบวนการศึกษาวิธีเชิงปริมาณผ่านการใช้แบบสอบถามซึ่งเป็นเครื่องมือ

            ที่คณะผู้วิจัยได้ปรับปรุงจากงานวิจัย เรื่อง สถาบันการเมืองกับการพัฒนาประชาธิปไตย : ศึกษากรณี
            การดำาเนินงานของรัฐสภาตามหลักเกณฑ์และกรอบแนวคิดของสหภาพรัฐสภา (IPU) โดยได้มีปรับปรุง
            แบบสอบถามให้สอดคล้องกับกลไกการดำาเนินงานของรัฐสภาที่กำาหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย
            พุทธศักราช 2560 ในส่วนที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกรัฐสภา ซึ่งกำาหนดให้มีรัฐสภาประกอบด้วย
            สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหาตามกระบวนการ
            ที่กำาหนดไว้ในบทเฉพาะกาล และกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการตรากฎหมายที่กำาหนดแนวนโยบายของ
            การมีกฎหมายไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 77 และบทบาทที่เพิ่มขึ้นของวุฒิสภาในการติดตามการปฏิรูป
            ประเทศ โดยแบบสอบถามที่พัฒนาขึ้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเป็นข้อมูลพื้นฐานของ
            ผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ จำานวน 4 ข้อ ส่วนที่สอง เป็นแบบสอบถาม

            การดำาเนินงานของรัฐสภา 6 ด้าน ซึ่งแต่ละด้านมีองค์ประกอบย่อยรวมทั้งสิ้น 34 องค์ประกอบย่อย
            และในแต่ละองค์ประกอบย่อย มีคำาถามย่อยรวมทั้งสิ้น 89 ข้อ ประกอบด้วย
                 1)  การเป็นตัวแทนของประชาชน (รหัส R) มี 4 องค์ประกอบย่อย โดยมีคำาถามรวม 19 ข้อ
                 2)  การทำาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ (รหัส L) มี 5 องค์ประกอบย่อย โดยมีคำาถามรวม 16 ข้อ
                 3)  การตรวจสอบฝ่ายบริหาร (รหัส O) มี 5 องค์ประกอบย่อย โดยมีคำาถามรวม  15 ข้อ
                 4)  ความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา (รหัส T) มี 8 องค์ประกอบย่อย
                   โดยมีคำาถามรวม 14 ข้อ

                 5)  ความสำานึกรับผิดชอบของรัฐสภา (รหัส A) มี 5 องค์ประกอบย่อย มีคำาถามรวม 10 ข้อ
                 6)  การมีส่วนร่วมในนโยบายระหว่างประเทศ (รหัส I) มี 7 องค์ประกอบย่อย มีคำาถามรวม 15 ข้อ
                 คณะผู้วิจัยทำาการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ
            ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนกระบวนการศึกษาเชิงคุณภาพนั้น ผู้วิจัยได้จัดกิจกรรมระดมความคิดเห็น
            ในรูปแบบการประชุมกลุ่มย่อย (Focus group) แบบสภากาแฟ (World Café) ซึ่งเป็นเทคนิคการประชุมกลุ่ม
            ที่มุ่งเจาะลึกในรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อนำาไปสู่ความเข้าใจข้อมูลในระดับลึกมากขึ้นเพราะภายใต้กระบวนการนี้
            ผู้เข้าร่วมสภากาแฟจะได้แสดงเหตุผลประกอบกับผลการประเมินที่ตนเองระบุ ซึ่งช่วยให้ทราบถึงเหตุ
            และผลที่เป็นเบื้องหลัง ตลอดจนที่มาของผลการประเมินได้อย่างละเอียด การแบ่งกลุ่มย่อยจะให้ผู้เข้าร่วม
            ประชุมกระจายไปตามกลุ่มย่อยต่าง ๆ แล้วหมุนเวียนสลับกลุ่มไปจนครบทุกกลุ่ม เป็นการเพิ่มโอกาสให้

            ผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นได้อย่างทั่วถึงในทุกประเด็น ทั้งนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ
            โดยใช้การประมวลผล วิเคราะห์เนื้อหาและสรุปความเห็นตามประเด็น หลังจากดำาเนินการศึกษาอย่าง
            ครบถ้วนตามกระบวนการและวิธีวิทยาการวิจัยแล้วพบว่าผลการประเมินการดำาเนินงานของรัฐสภา
            สรุปผลในภาพรวม ดังนี้








                                                                                   III
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12