Page 147 - kpiebook66022
P. 147

การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
                                                  โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)

                    ความโปร่งใสในการได้มาของสมาชิกรัฐสภา (R4)
                     ในเรื่องความโปร่งในในการได้มาของสมาชิกรัฐสภานั้น ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ
            และการสัมมนากลุ่มย่อย (focus group) เห็นว่า ในส่วนกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
            ในขั้นตอนการหาเสียงและในวันลงคะแนนค่อนข้างมีความโปร่งใส แต่มีข้อจำากัดในการเข้าถึงข้อมูล
            และกระบวนการคำานวณคะแนนเลือกตั้ง รวมถึงแนวทางในการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง ทำาให้
            เกิดข้อสงสัยในเรื่องของการมีส่วนได้เสียของผู้จัดการเลือกตั้ง สำาหรับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภานั้น

            เห็นว่าในส่วนของการเลือกสมาชิกของคณะกรรมการคัดเลือกที่แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
            นั้นไม่สามารถตรวจสอบกระบวนการได้มาของสมาชิกวุฒิสภาได้ แต่กระบวนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา
            ในกรณีเลือกกันเอง 50 คน ค่อนข้างมีความโปร่งใส
                 4.2.2  ด้านการทำาหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ
                    กรอบแนวคิด และกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายในรัฐสภา และคณะกรรมาธิการ (L1)
                     กรอบแนวคิดและกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายในรัฐสภาและคณะกรรมาธิการ
            ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิและการสัมมนากลุ่มย่อย (focus group) เห็นว่า การดำาเนิน
            กระบวนการพิจารณากฎหมายยังมีข้อจำากัด  การนำาเสนอข้อมูลเน้นจากส่วนราชการยังไม่มีความหลากหลาย
            ในชั้นกรรมาธิการ  การบริการกระบวนการขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประธานและยึดโยงกับแนวทางที่รัฐบาลกำาหนด

            ทำาให้กฎหมายไม่ได้ยึดความต้องการของประชาชน แต่มักจะยึดเอาจากความต้องการของกลุ่มคนบางกลุ่ม
            นอกจากนี้ ข้อมูลความรู้ที่ให้กับประชาชนยังมีน้อยมาก กระบวนการพิจารณากฎหมายมีความซับซ้อน
            หลายขั้นตอน ทำาให้การผลักดันกฎหมายทำาได้ยาก  ทั้งนี้ มีข้อเสนอว่าควรมีการประชาสัมพันธ์ รวมทั้ง
            สื่อสารให้ประชาชนได้ทราบถึงผลลัพธ์ของการดำาเนินงานพิจารณากฎหมายของรัฐสภาให้มากขึ้น
            กำาหนดกติกาการดำาเนินงานให้ประชาชนได้ทราบกระบวนการทำางานที่ชัดเจน นำาเทคโนโลยีมาใช้
            ในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อความรวดเร็วในการดำาเนินงานและควรเน้นการยกเลิกกฎหมายที่ไม่ได้
            มีการใช้งานยาวนาน พร้อมกับรมีการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย ให้ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และควรให้

            ผู้มีส่วนได้เสีย แสดงความคิดเห็นอีกครั้งหลังจากออกกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
                    การมีส่วนร่วมของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย (L2)
                     ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิและการสัมมนากลุ่มย่อย (focus group) เห็นว่า
            การเสนอกฎหมายโดยประชาชนและฝ่ายการเมือง มีขั้นตอนความยากง่ายที่แตกต่างกัน ในส่วนประชาชน
            ทำาได้ยากกว่า อย่างไรก็ดี กระบวนการในปัจจุบันถือว่ามีความโปร่งใสมาก มีการรับฟังความเห็นอยู่ตลอด
            แต่ในแง่ของผลการดำาเนินการส่วนใหญ่เห็นว่ามักจะมีธงที่ชัดเจนอยู่แล้วในการรับฟังความเห็น ทำาให้ความ
            เห็นต่างหลาย ๆ ส่วนถูกปิดกั้น และโอกาสในการเข้าถึงค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ มีข้อเสนอให้มีกระบวนการ
            ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้าในการรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้เพิ่มขึ้น
            ควรลดกระบวนการที่ซับซ้อนต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย







                                                                                  133
   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152