Page 117 - kpiebook66022
P. 117
การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
และกลุ่มตัวอย่างที่เป็นภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคเอกชน ในภาพรวมพบว่ามีผล
การประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้อยู่ในระดับ “ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.84
โดยจำาแนกในรายละเอียดตามกลุ่มตัวอย่างได้ ดังนี้
1. กลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักการเมืองและอดีตนักการเมือง
พบว่าในภาพรวมมีผลการประเมินด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหารในระดับ
“ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.84 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดทั้ง 5 องค์ประกอบแล้ว พบว่า
มี 1 องค์ประกอบย่อยที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านการตรวจสอบฝายบริหารอยู่ในระดับ “สูง” คือ
องค์ประกอบเกี่ยวกับความเป็นอิสระและเอกเทศในการทำางานของรัฐสภาจากฝายบริหาร (O4) มีค่าเฉลี่ย
อยู่ที่ 3.15 และมี 4 องค์ประกอบย่อยที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหารอยู่ในระดับ
“ปานกลาง” ได้แก่ องค์ประกอบเกี่ยวกับระบบการได้มาซึ่งข้อมูลและการตรวจสอบการทำางานของ
ฝ่ายบริหาร (O1) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.97 ปัจจัยสนับสนุนการทำางานของสมาชิกรัฐสภา (O5) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่
2.97 ระบบและขั้นตอนการพิจารณาและตรวจสอบงบประมาณประจำาปี (O2) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.75|
และกระบวนการในการกลั่นกรองและตรวจสอบการทำาหน้าที่ของฝ่ายบริหารและองค์กรอิสระ (O3)
มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.50
2. กลุ่มตัวอย่างที่เป็นข้าราชการ อดีตข้าราชการ และเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ
พบว่าในภาพรวมมีผลการประเมินด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหารในระดับ
“ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.84 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดทั้ง 5 องค์ประกอบแล้ว พบว่า
มี 1 องค์ประกอบย่อยที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านการตรวจสอบฝายบริหารอยู่ในระดับ “สูง” คือ
องค์ประกอบเกี่ยวกับระบบและขั้นตอนการพิจารณาและตรวจสอบงบประมาณประจำาปี (O2) มีค่าเฉลี่ย
อยู่ที่ 3.17 และมี 4 องค์ประกอบย่อยที่มีผลประเมินรัฐสภาด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหารอยู่ในระดับ
“ปานกลาง” เรียงตามค่าเฉลี่ย ได้แก่ องค์ประกอบเกี่ยวกับระบบการได้มาซึ่งข้อมูลและการตรวจสอบ
การทำางานของฝ่ายบริหาร (O1) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.92 ปัจจัยสนับสนุนการทำางานของสมาชิกรัฐสภา (O5)
มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.83 ความเป็นอิสระและเอกเทศในการทำางานของรัฐสภาจากฝ่ายบริหาร (O4) มีค่าเฉลี่ย
อยู่ที่ 2.67 และกระบวนการในการกลั่นกรองและตรวจสอบการทำาหน้าที่ของฝ่ายบริหารและองค์กรอิสระ
(O3) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.32
3. กลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักวิชาการและสื่อมวลชน
พบว่าในภาพรวมมีผลการประเมินด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหารในระดับ
“ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.82 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดทั้ง 5 องค์ประกอบแล้ว พบว่า
มี 2 องค์ประกอบย่อยที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านการตรวจสอบฝายบริหารอยู่ในระดับ “สูง” ได้แก่
ระบบการได้มาซึ่งข้อมูลและการตรวจสอบการทำางานของฝายบริหาร (O1) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.21 และ
ระบบและขั้นตอนการพิจารณาและตรวจสอบงบประมาณประจำาปี (O2) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.03
โดยมี 3 องค์ประกอบย่อยที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหารอยู่ในระดับ “ปานกลาง”
ได้แก่ปัจจัยสนับสนุนการทำางานของสมาชิกรัฐสภา (O5) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.99 ความเป็นอิสระ
103