Page 7 - kpiebook66015
P. 7
สภำผู้แทนรำษฎร หรือก็คือ เป็นระบบที่ท ำไห้ประมุขของฝ่ำยบริหำรและเสียงข้ำงมำกของสภำผู้แทนรำษฎร
เป็น “พวกเดียวกัน”
ทั้งนี้ จากการศึกษาวิจัยทั้งหมดได้ท าให้เกิดข้อสังเกตที่ส าคัญ ดังนี้
1. ในกลุ่มประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ไม่มีประเทศใดสร้างกลไกใน
ลักษณะไปถึงที่ท าให้ฝ่ายบริหารต้องถูกตรวจสอบจนไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างปกติ และไม่มี
ประเทศใดที่สร้างกลไกให้ตัวของพรรคฝ่ายค้านโดยตัวเองซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยในรัฐสภาสามารถล้มนโยบาย
ฝ่ายบริหารหรือท าให้ฝ่ายบริหารออกจากต าแหน่งได้เนื่องจากถือเป็นการผิดธรรมชาติของการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยที่ต้องเคารพเสียงของประชาชนที่เลือกตั้งมา
2. การตรวจสอบที่เกิดในกรณีพิเศษในต่างประเทศ (เช่น กรณีฝ่ายตุลาการมีค าพิพากษาก้าวล่วงไป
ถึงการก าหนดนโยบายของรัฐบาลซึ่งเป็นเรื่องทางการเมือง) จะมีลักษณะจ ากัดการตรวจสอบอยู่ที่กิจการที่อาจ
ไปล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้
ดังนั้น ผู้เขียนจึงมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดย
ฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนี้
1. ควรก าหนดให้รัฐมนตรีจะต้องไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุล
อย่างเต็มที่
2. ควรบัญญัติเรื่องอ านาจในการแสวงหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการในรัฐสภาเหมือนอย่างที่
เคยบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
3. ควรบัญญัติในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่าสมาชิกรัฐสภาสามารถขอให้มีการออกเสียงประชามติได้
โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงชื่อรับรอง และแก้ไขบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการออกเสียงประชามติให้
สอดคล้องกัน
6