Page 39 - kpiebook66003
P. 39

38   การศึกษาเพื่อถอดบทเรียนและพัฒนาตัวแบบโรงเรียนแห่งความซื่อตรง



                   การแบ่งประเภทของความซื่อตรงโดย Huberts (2005) Bar-

          nard, Schurink and De Beer (2008) และสถาบันพระปกเกล้า (2554)
          ทำาให้เห็นว่า ความซื่อตรงนั้นมีขอบเขตที่กว้างและหลากหลาย ซึ่งสามารถ
          สรุปลักษณะความซื่อตรงเป็น 4 ประเภท ได้แก่


                   1) ความซื่อตรงต่อตนเอง

                   2) ความซื่อตรงต่อบุคคลอื่น

                   3) ความซื่อตรงต่อหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ

                   4) ความซื่อตรงต่อสังคมและประเทศชาติ


                   ความซื่อตรงต่อตนเอง หมายถึง ความรู้ผิดชอบชั่วดี มีศีลธรรม

          ซื่อสัตย์ต่อตนเองแม้ไม่มีใครรู้เห็นและคิดอยู่เสมอว่าความลับไม่มีในโลก
          เป็นความซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ของตน ไม่หลอกลวงหรือแก้ตัวให้กับตนเอง

          เมื่อกระทำาสิ่งที่ผิดหรือไม่สมควร ยึดมั่นในความดีทั้งกาย วาจา และใจ
          โดยยึดถือความถูกต้องเป็นที่สุด

                   ความซื่อตรงต่อบุคคลอื่น หมายถึง ความจริงใจต่อกัน ไม่คดโกง

          หลอกลวง มีความสามัคคีกัน ไม่นินทาว่าร้าย ไม่คิดร้ายต่อกัน ไม่ทำาตนเป็น
          คนหน้าไหว้หลังหลอก ไม่กล่าวหรือเขียนข้อความเท็จ ไม่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น

          ซึ่งหากมีการประพฤติซื่อตรงดังกล่าวก็จะนำามาซึ่งความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
          ลดความหวาดระแวง และเกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน ความซื่อตรงต่อ
          บุคคลอื่นยังหมายถึงความตรงเวลาเมื่อไปพบผู้อื่นตามเวลาที่ได้นัดหมายไว้

          เพราะไม่เบียดเบียนเวลาผู้อื่น ความซื่อตรงข้อนี้สอดคล้องกับ “หลักราชการ”
          ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงนิพนธ์

          พระราชทานให้กับข้าราชการ เนื่องในวันสงกรานต์ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์
          2457 ว่าการประพฤติซื่อตรงต่อคนทั่วไป คือ การรักษาตนให้เป็น
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44