Page 65 - kpiebook65072
P. 65
64 บทบัญญัติทางกฎหมาย เพื่อการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
ดังนั้น ในการกำาหนดให้การทรมานหรือการกระทำาให้บุคคลสูญหายเป็นความผิด
ในทางอาญา รัฐจะต้องกำาหนดองค์ประกอบความผิดและโทษให้ชัดเจน
2.2.1.4 ต้องตีความอย่างเคร่งครัด
หลัก Lex stricta ทำาหน้าที่กำาหนดให้รัฐต้องตีความกฎหมายอาญา
อย่างเคร่งครัด รัฐไม่สามารถตีความกฎหมายอาญาในลักษณะที่อนุมานให้เป็น
ผลร้ายแก่ผู้กระทำาได้ ดังที่ศาสตราจารย์ Roelof Haveman ได้กล่าวไว้ว่า
แม้ว่าการกระทำาของบุคคลนั้นจะชั่วร้ายเพียงใด ศาลก็ต้องหลีกเลี่ยงไม่ลงโทษ
บุคคลจากการกระทำานั้น ตราบใดที่รัฐยังไม่ได้บัญญัติให้อยู่ในเขตอำานาจของศาล
97
โดยหลักการนี้สอดคล้องกับธรรมนูญกรุงโรม ข้อ 22(2) ว่า “คำานิยามของอาชญากรรม
จะต้องถูกตีความอย่างเคร่งครัดและไม่ใช้การอนุมานเพื่อตีความขยาย
ในกรณีที่มีความคลุมเครือ ให้ตีความคำานิยามนั้นในลักษณะที่เป็นผลดีแก่บุคคล
ที่ถูกสอบสวน ดำาเนินคดี หรือถูกตั้งข้อหา” ดังนั้น หากการกำาหนดความผิด
98
ฐานการทรมานหรือการกระทำาให้บุคคลสูญหายมีลักษณะคลุมเครือและต้อง
ตีความ รัฐต้องตีความอย่างเคร่งครัดและไม่อนุมานให้เป็นผลร้ายแก่ผู้กระทำา
2.2.2 การก�าหนดโทษในทางอาญา
เนื่องจากประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องกำาหนดให้การทรมานหรือ
การกระทำาให้บุคคลสูญหายเป็นความผิดที่มีโทษ และมีระวางโทษที่เหมาะสม
99
โดยคำานึงถึงความร้ายแรงของการกระทำา จึงไม่พึงต้องพิจารณาความเหมาะสมว่า
97 Roelof Haveman, Olga Kavran, Julian Nicholls, Supranational Criminal
Law: A System Sui Generis (Intersentia, 2003), p. 61.
98 Supra Note 91, Rome Statute, Art. 22.
99 โปรดดูเชิงอรรถ 82-85.
inside_ .indd 64 14/9/2565 11:15:01