Page 296 - kpiebook65072
P. 296
295
6.2.4.3 ไม่มีระบุในกฎหมายภายใน
แนวทางที่สาม คือ รัฐภาคีไม่มีบทบัญญัติใดในกฎหมายภายใน
ไม่ว่าจะในระดับรัฐธรรมนูญหรือประมวลกฎหมาย ที่กล่าวถึงหลักการห้าม
เลี่ยงไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน (Non-Derogation) หรือ
หลักการเกี่ยวกับการจำากัดสิทธิขั้นพื้นฐาน (Restriction of Fundamental Rights)
จึงต้องอาศัยการตีความว่าการไม่มีบทบัญญัติที่ให้กระทำาได้หมายความว่ารัฐบาล
ไม่สามารถจำากัดสิทธิขั้นพื้นฐานได้ โดยรัฐที่ใช้แนวทางนี้ คือ ญี่ปุ่น โดยรัฐบาล
ญี่ปุ่นระบุว่า ประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ของญี่ปุ่น ไม่มีบทบัญญัติใดที่ยกเว้นความรับผิดทางกฎหมายที่เกิดจากการทรมาน
และการกระทำาให้บุคคลสูญหาย อันมีสาเหตุมาจากสภาวะสงคราม ความไม่สงบ
576
ทางการเมืองภายในประเทศ หรือสถานการณ์ฉุกเฉินสาธารณะอื่น ๆ
จึงสามารถตีความได้ว่าเมื่อไม่มีบทบัญญัติให้ยกเว้นได้ หมายความว่าผู้กระทำาผิด
ฐานการทรมานหรือการกระทำาให้บุคคลสูญหายจะมีความรับผิดในทุกกรณี
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น มาตรา 13
ซึ่งวางหลักว่า สิทธิที่จะมีชีวิต เสรีภาพและการแสวงหาความสุขเป็นสิ่งที่
ควรคำานึงถึงอย่างสูงสุดในการออกกฎหมายและการดำาเนินการของรัฐ
ภายใต้ขอบเขตเท่าที่ไม่กระทบต่อสวัสดิการสังคม ทำาให้อาจตั้งข้อสังเกต
577
ได้ว่ามาตรา 13 อาจเป็นการสร้างข้อจำากัดในการอุปโภคสิทธิซึ่งอาจไม่เป็นไป
ตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญา CAT และอนุสัญญา CED
576 Supra Note 478, Japan Report, para. 15.
577 Supra Note 475, Japan Constitution, Art. 13
“All of the people shall be respected as individuals. Their right to life,
liberty, and the pursuit of happiness shall, to the extent that it does not
interfere with the public welfare, be the supreme consideration in legislation
and in other governmental affairs.”
inside_ .indd 295 14/9/2565 11:15:08