Page 199 - kpiebook65071
P. 199
198 บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คุ้มครอง “ปัจเจกบุคคล” และ “ตัวการ” แต่ถึงแม้ว่ากฎหมายจะใช้ถ้อยคำาที่
แตกต่าง บุคคลที่ถูกคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืมตามกฎหมายไทยนั้นมีสารัตถะ
เช่นเดียวกับตัวบุคคลที่ถูกคุ้มครองตามกฎหมายประเทศออสเตรเลีย ประเทศ
สิงคโปร์ และประเทศญี่ปุ่น เนื่องจาการบัญญัติโดยใช้คำาว่า “เจ้าของข้อมูล
ส่วนบุคคล” นั้น ก็สามารถครอบคลุมตัวปัจเจกบุคคลและตัวการได้เช่นกัน
เนื่องจากโดยสาระแล้วบุคคลที่ถูกคุ้มครอง ได้แก่ บุคคลธรรมดาใด ๆ ที่ข้อมูล
ส่วนบุคคลของตนถูกประมวลผลโดยบุคคลอื่น
ในส่วนของผู้มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืมนั้น การกำาหนดหน้าที่
ให้กับ “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ตามมาตรา 33 ของพระราชบัญญัติคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ก่อปัญหาว่าผู้มีอำานาจตัดสินใจในการประมวลผลข้อมูล
บางรายจะไม่อยู่ในคำานิยาม ไม่ว่าจะสำานักพิมพ์หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็น
ผู้เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่แรก ผู้ให้บริการเว็บไซต์ หรือผู้ให้บริการ
สืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลล้วนมีสถานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หากปรากฏ
ข้อเท็จจริงว่ามีอำานาจตัดสินใจว่าจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะใด
ข้อจำากัดในการกำาหนดหน้าที่แก่ผู้ให้บริการระบบสืบค้นข้อมูลออนไลน์ เช่น
Google นั้น ไม่เกิดตัวบทกฎหมายที่กำาหนดหน้าที่ หากแต่เป็นข้อจำากัด
ของการที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศหนึ่งย่อมไม่มีผลบังคับ
ถึงบุคคลซึ่งทำาการประมวลผลข้อมูลจากต่างประเทศ
ในการคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืมนั้น กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลจะต้องบัญญัติถึงการร้องขอผู้ทรงสิทธิและหน้าที่ดำาเนินการ
โดยผู้มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืม การลบหรือทำาลายข้อมูลเมื่อข้อมูล
ส่วนบุคคลหมดความจำาเป็นที่จะต้องถูกประมวลผลตามวัตถุประสงค์
การกำาหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการลบ ทำาลายและทำาให้ข้อมูลส่วนบุคคล
เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

