Page 187 - kpiebook65071
P. 187

186   บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
             และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


          ไม่มีความจำาเป็นต่อวัตถุประสงค์ด้านกฎหมายหรือธุรกิจอีก แม้กฎหมาย

          ฉบับดังกล่าวไม่ได้กำาหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างชัดเจน
          แต่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจยึดถือระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลตาม
          มาตรฐานที่กำาหนดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของผู้ควบคุมข้อมูล

          ส่วนบุคคล หรืออาจกำาหนดระยะเวลาการสิ้นสุดของการเก็บรักษาข้อมูลนั้นเอง
          โดยพิจารณาจากปัจจัยที่กำาหนด 287


                   อีกทั้งในมาตรา 5 (1) (e) ของ GDPR ที่เป็นหนึ่งในหลักการคุ้มครอง
          ข้อมูลส่วนบุคคลไว้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจำาต้องเก็บไว้ไม่เกินกว่าที่จำาเป็น
          เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม โดยเรียกเงื่อนไขตามบทบัญญัติข้อนี้ว่า

          เป็น “ข้อจำากัดของการเก็บ (Storage Limitation)” โดยไม่ได้กำาหนดระยะเวลา
          ในการเก็บว่าควรจำาต้องเก็บไว้นานเพียงใดแต่เป็นหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูล

          ส่วนบุคคลที่อาจกำาหนดระยะเวลาการสิ้นสุดของการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
          ไว้เอง




          4.3.4 การก�าหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการลบ ท�าลายและ

          ท�าให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคล
          ที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้


                   มาตรา 33 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
          บัญญัติเนื้อหาของสิทธิที่จะถูกลืมเอาไว้ ได้แก่ การลบ ทำาลาย หรือทำาให้ข้อมูล

          ที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยไม่ได้บัญญัติ
          รายละเอียดของการดำาเนินการเอาไว้ว่าในการลบหรือทำาลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

          จะต้องดำาเนินการอย่างไร ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับแนวทางของ
          GDPR UK DPA 2018 AUS PA 1988 JAP APPI 2020 TW PDPA 2015


          287   Personal Data Protection Act 2012, Section 25.
   182   183   184   185   186   187   188   189   190   191   192