Page 171 - kpiebook65071
P. 171
170 บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในขณะที่ มาตรา 2 ของ HK PDPO นั้น ได้กำาหนดนิยามของ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) เอาไว้ว่าเป็นปัจเจกบุคคล
(Individual) ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า
มาตรา 26 ของ HK PDPO 1996 นั้น มิได้บัญญัติโดยรับรองสิทธิของ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่จะร้องขอให้มีการลบทำาลายข้อมูลส่วนบุคคล
โดยตรง หากแต่บัญญัติให้ตัวผู้ใช้ข้อมูล (Data User) ซึ่งได้แก่ บุคคลที่มี
อำานาจในการเก็บรวบรวม ถือครอง ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล 266
มีหน้าที่ในการลบทำาลายข้อมูลส่วนบุคคลที่หมดความจำาเป็นที่จะต้องถูก
ประมวลผลตามวัตถุประสงค์อีกต่อไป จึงอาจกล่าวได้ว่ามาตรา 26 ของ
HK PDPO 1996 นี้ มีลักษณะที่สอดคล้องกับหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูล
ส่วนบุคคลตามมาตรา 37 (3) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 มากกว่าจะเป็นบทบัญญัติในส่วนของสิทธิที่ของเจ้าของข้อมูล
ส่วนบุคคลมาตรา 33 โดยตรง
4.1.2 ปัจเจกบุคคล (Individual)
อย่างไรก็ตาม การกำาหนดถึงตัวบุคคลผู้ทรงสิทธิที่จะถูกลืมนั้นมิได้
ถูกดำาเนินการผ่านคำาว่าผู้ทรงสิทธิเท่านั้น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
อาจใช้ถ้อยคำาอื่นในการกำาหนดตัวผู้ทรงสิทธิได้ เช่น AUS PA 1988 กำาหนดให้
ผู้ทรงสิทธิที่ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลคนนั้นจะถูกทำาลายได้แก่ “ปัจเจกบุคคล
(Individual)” ซึ่งหมายรวมถึงบุคคลธรรมดา โดยกฎหมายของประเทศ
ออสเตรเลียได้บัญญัตินิยามของคำาว่า Individual เอาไว้ว่า “บุคคลธรรมดา”
มาตรา 25 ของ SG PDPA 2012 บัญญัติให้มีการยุติการเก็บและ
ลบทางเชื่อมต่อกับข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อหมดเวลาของการเก็บรักษาข้อมูล
ส่วนบุคคล โดยไม่ได้บัญญัติรับรองว่าตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอ
266 Personal Data (Privacy) Ordinance (1996), Section 2.