Page 102 - kpiebook65057
P. 102
การมองอนาคตอย่างมีกลยุทธ์ (Strategic Foresight) (Van Duijne
Freitas and Bishop Peter, 2018) แตกต่างจากการวางแผนแบบเดิม ๆ ซึ่งมักจะสร้าง
ตัวแบบต่าง ๆ ออกมา แต่การวางแผนการมองอนาคตอย่างมีกลยุทธ์นี้ใช้ในสถานการณ์
ที่ความยืดหยุ่น ไม่แน่นอน ซับซ้อน อธิบายได้ยากเพราะโลกในปัจจุบันมักจะ
คาดการณ์ได้ยากขึ้น และเราไม่สามารถที่จะรู้อนาคตได้อย่างชัดเจน การวางแผน
แบบเดิมๆ ไม่สามารถที่จะให้ผลที่เชื่อถือได้ สิ่งสำคัญที่เกี่ยวข้องคือ
ความผันผวน (volatility) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่ขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งจะมี
สามมิติคือความเร็วของการเปลี่ยนแปลงที่มีความแปรปรวน และคาดการณ์ความเร็ว
ไม่ได้ บางครั้งก็เร็วบางครั้งก็ช้า นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงกระจายไปในหลายมิติ
ในลักษณะที่คาดการณ์ไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่พบเห็นในรูปแบบเดียว เช่น
ราคาของสินค้าหรือการเปลี่ยนแปลงที่กระจายออก นอกจากนี้ระดับของการผันผวน
ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ก็มีผลกระทบต่อสิ่งต่าง ๆ
ความไม่แน่นอน (uncertainty) มีสิ่งที่ไม่รู้อีกจำนวนมากและมีผลกระทบต่อ
สิ่งต่าง ๆ เป็นการยากที่จะพยากรณ์ผลจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะเปรียบเทียบ
สถานการณ์ที่ผ่านมากับการพยากรณ์ในอนาคตเพราะมีความไม่แน่นอนอยู่
ความซัับซั้อน (complexity) หมายถึง สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง และ
มีผลกระทบกันและกัน สาเหตุและผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ชัดเจน และไม่ชัดเจน
ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีปฏิิสัมพันธ์กันอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรแต่ละตัว
ผลต่อการเปลี่ยนแปลงและมีความซับซ้อนมากทำให้เข้าใจได้ยากที่จะทราบผล
การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
ความเคลือบแคลงสงสัย (ambiguity) หมายถึง การขาดความหมาย
ที่ชัดเจน หรือมีความหมายที่หลากหลายผสมกันอยู่ ร่วมกับศักยภาพจำนวนมาก
สำหรับการสร้างความเข้าใจสถานการณ์และไม่สามารถที่จะอธิบายสถานการณ์
ได้ว่าอะไรการจะดำเนินการต่อไปก็คือการต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่รู้
47
