Page 86 - kpiebook65056
P. 86
84 ผู้ นร รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 85
วิธีเลือกคนเดียวที่ใช้ส�าหรับเลือกผู้แทนต�าบลวิธีเลือก หนนี้ อนึ่ง เมื่อออกจากสมาชิก าพโดยไม่มีความเสียหาย
เห็นว่าเหมาะอย่างยิ่ง ส�าหรับที่จะน�ามาใช้แก่วิธีเลือกผู้แทนราษฎร แล้ว ประสงค์จะเข้ารับราชการในต�าแหน่งชั้นเดียวกับต�าแหน่ง
เพราะวิธีเลือกผู้แทนราษฎรเราใช้วิธีเลือก ชั้นหรือ ดีกรี คือ ประจ�าการเดิมอีก ท่านว่าให้เจ้ากระทรวงทบวงการเดิม รับบรรจุ
ราษฎรเลือกผู้แทนต�าบลชั้นหนึ่ง ผู้แทนต�าบลเลือกผู้แทนราษฎรอีก ก่อนผู้อื่น”
ชั้นหนึ่ง ะนั้นจ�านวนผู้แทนต�าบลที่จะออกเสียงเลือกผู้แทนราษฎร
จึงมีจ�านวนน้อย ถ้าจะเลือกหนเดียวแล้วผลจะได้เช่นนี้ สมมุติว่า สำาหรับอายุของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป นผู้แทนราษฎร ที่ได้ยกมา
ในจังหวัดหนึ่งมีผู้แทนต�าบล คน มีผู้สมัคร คน เสียงย่อม พิจารณาในตอนต้นนั้นก็ยังเป นไปตามเดิมคือกำาหนดไว้ต้องมีอายุครบ 23 ป
กระจาย บางทีผู้ที่ได้คะแนนเพียง เสียง อาจได้คะแนนสูงที่สุด บริบูรณ์ และสำาหรับราษฎรผู้มีสิทธิ ออกเสียงเลือกตั้ง ได้กำาหนดไว้ว่าต้อง
และเป็นผู้แทนราษฎรโดยคะแนนเสียง เสียง เช่นนี้ไม่งดงามเลย มีอายุ 20 ป บริบูรณ์ นับว่ากฎหมายฉบับนี้เป ดโอกาสให้คนหนุ่มคนสาว
ตามวิธีเลือก หนนั้น ถ้าเลือกครั้งแรกมีผู้ได้คะแนนเกินกว่าครึ่ง ที่บรรลุนิติภาวะได้มีสิทธิ ทางการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งค่อนข้างมาก
ก็ได้เป็นผู้แทนทันที ไม่ต้องเลือกครั้งที่สองอีก ถ้าไม่ได้เกินกว่า แม้จะเป นยุคเริ่มต้นของการสร้างประชาธิปไตยก็ตาม
ครึ่งก็ต้องมีการเลือกครั้งที่สองอีกตามที่ปราก อยู่ในตัวบทนั้น”
ส่วนในภาคที่ 2 ที่ว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 นั้น
กำาหนดไว้เพียงมาตราเดียว ระบุว่าพระมหากษัตริย์ทรงประกาศ
ส่วนทางด้านผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป นผู้แทนราษฎรนั้นได้เป ด พระราชก ษฎีกาตั้งสมาชิกประเภทที่ 2 ข ้น ตามรัฐธรรมนู มาตรา 65
โอกาสให้ข้าราชการสามารถลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งได้โดยยังไม่ต้องลาออก และให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 อยู่ในตำาแหน่งได้ตลอดวาระ
จากราชการ แต่ผู้สมัครนั้นต้องไม่ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งในจังหวัดที่ตน ที่ใช้บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนู ฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ในการเลือก
รับราชการอยู่ ดังที่มีการบั ัติไว้ในวรรค 2 มาตรา 8 ของกฎหมายเลือกตั้งว่า บุคคลเข้ามาแทนตำาแหน่งสมาชิกที่ว่างลงก็ดี หรือต้องการลดจำานวน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทนี้ลงไปก็ดี ให้เป นไปตามที่บั ัติไว้ใน
“ข้าราชการรับพระราชทานเงินเดือนของรั บาล ในต�าแหน่ง วรรค 2 ของมาตรา 47 ที่ว่า
ประจ�าในจังหวัดใดจะสมัครรับเลือกเป็นผู้แทนราษฎรของจังหวัด
นั้นไม่ได้ และถ้าได้รับเลือกตั้งจากจังหวัดอื่นแล้วต้องลาออกจาก “ต่อไปเมื่อจะเลือกตั้งบุคคลเข้าแทนในต�าแหน่งสมาชิก
ต�าแหน่งประจ�าการ แต่ให้มีสิทธิ ได้บ�าเหน็จบ�านาญตามพระราช ที่ว่าง หรือจะต้องตั้งสมาชิกเพิ่มจ�านวนขึ้นก็ดี หรือจะต้องปลด
บัญญัติบ�าเหน็จบ�านาญข้าราชการพลเรือน พ.ศ. มาตรา สมาชิกเพื่อลดจ�านวนลงก็ดี เพื่อให้สมาชิกประเ ทที่ คงมีจ�านวน
ถ้าเป็นข้าราชการทหารอาจได้รับเบี้ยหวัดแทนบ�าเหน็จบ�านาญ เท่ากันกับสมาชิกประเ ทที่ ท่านให้สมาชิกประเ ทที่ ที่มีอยู่
ตามระเบียบการของทหารก็ได้ ในขณะนั้น ประชุมเลือกตั้งหรือปลดตามจ�านวนที่จ�าเป็น”