Page 182 - kpiebook65056
P. 182

180          ผู้  นร   รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว                  181



  “ด้วยเหตุว่าการเทศบาลนั้น เราจ�าเป็นที่จะต้องท�ากิจการ  ในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2476 ก่อนป ดประชุมสภาสมัยสามั
 หลายอย่าง ไม่ใช่แต่การสุขา ิบาลอย่างในครั้งก่อน ซึ่งท�าการแต่  เพียง 2 วัน ก็ได้มีการปรับคณะรัฐมนตรีเพราะมีรัฐมนตรีลาออกจากตำาแหน่ง

 อย่างเดียวเท่านั้น เราจะต้องพิจารณา ตลอดจนกระทั่งในเรื่อง  2 ท่าน รายแรกนั้นได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพระยาประเสริฐ
  าษีอากร ที่จะแบ่งสันป  นส่วนกันในระหว่างรั บาลกับเทศบาล  สงคราม ท่านผู้นี้เป นปลัดทูลฉลองกระทรวงกลาโหมมาตั้งแต่ก่อนวันที่
 อย่างหนึ่ง โดยจะต้องพิจารณาถึงเรื่องกิจการที่เทศบาลจะต้อง  24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินแล้วยัง

 กระท�าเช่นเดียวกัน ในเรื่องสาธารณสุขก็ดี ในเรื่องรักษาความสงบ  ดำารงตำาแหน่งเดิมสืบต่อมาและได้รับแต่งตั้งเป นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
 เรียบร้อยในพระราชอาณาจักรก็ดี และในกรณีอื่น ๆ ดังที่ได้เห็น  ชั่วคราวคนหน ่งในจำานวน 70 คนแรกของสภาฯ ด้วย ภายหลังที่พระยาพหลฯ

 แล้วในร่างพระราชบัญญัติ บับนี้ แต่การที่จะท�าให้ครบถ้วนเช่นนั้น    ย ดอำานาจซำ้า ล้มรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ที่ป ดสภาฯ และได้
 ก็จะต้องเสียเวลาอีกนาน เหตุ ะนั้น จึงได้หยิบเอารูปการณ์ของ  ทำาการเป ดสภาผู้แทนราษฎรแล้ว พระยาพหลฯ ได้เข้ามาเป นนายกรัฐมนตรี
 เทศบาลนั้น ขึ้นร่างเป็นพระราชบัญญัติ และเสนอรั บาลเสีย   ในการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดแรกของท่านนั้น ท่านได้ตั้งพระยาประเสริฐสงคราม

 ขั้นหนึ่งก่อน ขอให้เทศบาลได้มีโอกาสที่จะเริ่มจัดตั้งหรือจัดท�าขึ้น   เข้ามาร่วมรัฐบาลเป นรัฐมนตรีกลาโหมด้วย โดยให้พ้นจากตำาแหน่งปลัด
 ได้ในป หน้าคือ ใน พ.ศ.      และในต้นป       นี้ ก็คงจะได้  จนหลังเลือกตั้งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่หน ่งที่มาจากการเลือกตั้ง

 เริ่มการได้นั้น  และการที่รั บาลได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ  ครั้งแรกแล้ว พระยาประเสริฐสงครามก็ยังอยู่ร่วมรัฐบาลเป นรัฐมนตรีว่าการ
 เทศบาลขึ้นมา ก็เพื่อปรารถนาที่จะให้เพื่อนสมาชิกทั้งหลายลงมติ   กระทรวงกลาโหมตามเดิม แต่มาลาออกในปลายสมัยการประชุมสภา
 รับหลักการของร่างพระราชบัญญัติ บับนี้เท่านั้น ส่วนราชการที่  ครั้งที่หน ่งของป  2476 เช่นนี้ จ งมีคนมองว่าน่าจะไม่สบายใจกับเรื่องที่สภาฯ

 เราจะด�าเนินต่อไปว่าเราจะวางรูปตามนี้ คือ ด�าเนินตามคล้าย ๆ    พิจารณากฎหมายอากรมรดกฯ ตลอดจนการดำาเนินการของรัฐบาลและ
 กับรั ธรรมนูนแห่งราชอาณาจักรสยามเหมือนกัน กล่าวคือ   สภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมสมัยที่ 1 นี่เอง แล้วก็น่าจะเป นเหตุผลที่

 จะเห็นได้จากเทศบาลต�าบล คณะมนตรีต�าบล และส าต�าบล    คล้ายกันกับกรณีของพระยาโกมารกุลมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ
 เพื่อให้ราษฎรได้รู้จักวิถีทางแห่งรั ธรรมนูญไปในตัว คือราษฎร   ที่ได้ขอลาออกจากตำาแหน่งเป นคนที่ 2 พระยาโกมารกุลมนตรีได้เข้ามาร่วม
 จะได้ฝ กการปกครองในต�าบลย่อย ๆ ของตน เพื่อประโยชน์แก่   รัฐบาลพระยาพหลฯ ตั้งแต่พระยาพหลฯ เข้ามาเป นนายกรัฐมนตรีในเดือน

 การที่จะเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรในส านี้ต่อไป  ”   มิถุนายน พ.ศ. 2476 การลาออกของรัฐมนตรีทั้ง 2 นาย ทำาให้นายกรัฐมนตรี
                   ปรับคณะรัฐมนตรีในตำาแหน่งอื่นด้วย โดยตัวท่านเองพ้นจากตำาแหน่งรัฐมนตรี

 ในวันนั้นสภาฯ ได้มีมติรับหลักการร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยต่อมา  ว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ เข้ามา
 ได้รับการประกาศใช้เป นกฎหมายในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2476  เป นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเอง นับเป นครั้งแรกที่นายทหารสมาชิก
                   คณะราษฎร เข้ามาดำารงตำาแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ
   177   178   179   180   181   182   183   184   185   186   187