Page 186 - kpiebook65056
P. 186

184          ผู้  นร   รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว                  185



 ในวันนั้น พระยาพหลฯ ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้เป นผู้แถลงเอง   ราษฎร จังหวัดสตูล เท่านั้นที่เห็นด้วย โดยท่านได้ยกประเด็นว่าการมีข่าว
 ในสภา และสภาก็มีมติรับหลักการในวันนั้น เมื่อกฎหมาย 3 ฉบับ ได้ผ่านสภาฯ    จำากัดโควตาค้ายาง ได้ทำาให้ราคายางข ้นไปหลายเท่าตัวมาก อันเป นผลดีกับ

 นายกรัฐมนตรีจ งได้ทูลเกล้าฯ ถวายร่างกฎหมายข ้นไปให้ทรงลงพระปรมาภิไธย   ผู้ปลูกยางเอง แต่ในวันที่ 10 กันยายน ทางสภาฯ ยังตกลงกันไม่ได้ จ งให้เลื่อนไป
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ให้ส่งกฎหมายกลับคืนมาให้พิจารณากำาหนด  พิจารณากันอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายน ตามที่รัฐมนตรี พระสารสาสน์พลขันธ์
 ให้แน่นอน ดังมีข้อสังเกต 3 ข้อดังนี้    16    ได้ขอนัดหมาย


 “      ผู้ต้องค�าพิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตนั้นจะต้องให้ได้  แต่เรื่องนี้ได้ถูกนำากลับมาพิจารณาในสภาฯ อีกครั้งในวันที่
 ทูลเกล้า  ถวายฎีกา เพื่อพระราชทานอ ัยโทษ และยอมให้  13 กันยายน พ.ศ. 2477 ในการประชุมครั้งที่ 22 เพราะนายกฯ อ้างมีเหตุ

 ญาติหรือผู้ต้องค�าพิพากษานั้น ทูลเกล้า  แทนได้ด้วย  จำาเป น ขอขยับจากวันที่ 12 มาเป น 13 กันยายน 2477 ในวันประชุม ดูเหมือน
                   นายกรัฐมนตรี พระยาพหลฯ ได้เตรียมตัวมาแล้วว่า ถ้าสภาฯ ไม่เห็นชอบ
      ในระหว่างที่ยังไม่ได้พระราชทานพระบรมราชวินิจ ัย ให้รอ
 การประหารชีวิตไว้  ก็จะลาออก เมื่อเริ่มประชุมในเรื่องนี้ทางรัฐบาลได้พยายามอธิบาย แล้วชี้เห็น
                   ถ งความจำาเป นว่าที่ทำานี้ก็เพื่อประโยชน์ของราษฎร แต่ผู้แทนราษฎรที่ลุกข ้น
      ต้องบัญญัติให้แน่ชัดเจนว่า ฎีกานั้นจะต้องน�าขึ้นทูลเกล้า    มาอภิปรายยังเป นไปในแนวทางที่คัดค้าน ไม่เห็นด้วย อยากให้มีการแก้ไข
 โดยไม่ละเลยชักช้า”  หรือแม้แต่กระทั่งอยากให้ลดเวลาของสั  าจาก 5 ป  เหลือ 3 ป  เป นต้น


 ระหว่างนี้ ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ส่งร่างกฎหมาย   เมื่อเป นเช่นนี้ หลวงวรนิติปรีชา ผู้แทนราษฎรจังหวัดสกลนคร ซ ่งในสมัยนั้น
 3 ฉบับ คืนมานั้น ได้เกิดเรื่องให ่สำาหรับรัฐบาลและสภาฯ เนื่องจากใน   ยังไม่มีการปลูกยางพารามากในจังหวัดที่ท่านเป นผู้แทนราษฎร ได้อภิปราย

 การประชุมครั้งที่ 19 ในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2477 รัฐบาลได้เสนอขอ  เป นเชิงขอให้เพื่อนผู้แทนราษฎรเห็นใจรัฐบาล ถ งขนาดบอกว่า ถ้าสภาฯ
 สัตยาบันที่ทางรัฐบาลได้ไปทำาสั  าจำากัดยางไว้กับต่างประเทศ ที่ลอนดอน   ไม่ให้สัตยาบันก็จะต้องมีการเปลี่ยนรัฐบาล    17

 ต่อสภาฯ ในวันนั้น พระสารสาสน์พลขันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ   “ถ้าส า  ไม่ให้มติให้รั บาลท�าสัตยาบันแก่อนุสัญญา
 ได้เป นผู้ชี้แจงแถลงไข มีสมาชิกสภาฯ หลายท่าน ได้ลุกข ้นอภิปราย โดยเฉพาะ   บับนี้แล้ว ข้าพเจ้าแน่ใจว่ารั บาลจ�าเป็นจะต้องลาออก เมื่อเป็น
 อย่างยิ่งผู้แทนราษฎรจากจังหวัดทางภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้แทนราษฎร   เช่นนั้นแล้ว ข้าพเจ้าขอวิงวอนให้ท่านทั้งหลาย คิดดู านะของ

 จากจังหวัดอื่น เช่น ผู้แทนราษฎรจังหวัดกา จนบุรี นครปฐม นครราชสีมา   บ้านเมืองเวลานี้เป็นอย่างไร”
 หรือแม้แต่ขุนสมาหารหิตะคดี กับนายไต  ปาณิกบุตร ผู้แทนราษฎรจังหวัด

 พระนคร ก็ได้ร่วมอภิปรายด้วย ความเห็นข้างมากจากการอภิปรายของ   แต่ที่น่าสังเกตว่า มีสมาชิกสภาประเภทที่ 2 ซ ่งมาจากการแต่งตั้ง
 ผู้แทนราษฎรไปในทางที่ไม่เห็นด้วยที่ไปตกลงจำากัดโควต้าค้ายาง มีผู้แทน  ได้มีความเห็นตรงกันข้ามกับรัฐบาล ได้ลุกข ้นอภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วย
 ราษฎรจากจังหวัดภาคใต้ที่เป นรัฐมนตรีด้วย คือพระยาสมันตรัฐฯ ผู้แทน  อย่างแจ้งชัด ท่านแรกเป นสมาชิกสภาฯ หน้าเก่า เจนสนามสภาผู้แทนราษฎร
   181   182   183   184   185   186   187   188   189   190   191