Page 188 - kpiebook65056
P. 188
186 ผู้ นร รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 187
มาตั้งแต่เริ่มมีสภาฯ ชุดแรก หลังจากทาง ายรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้แถลง ที่รัฐบาลไม่ได้รับการให้สัตยาบันในการทำาสั ากับต่างประเทศ จากสภาฯ
เรื่องที่ขอยืนยัน ัตติใหม่ให้พิจารณา นายมังกร สามเสน สมาชิกประเภทที่ 2 การแพ้เสียงในเรื่องที่สำาคั ที่รัฐบาลจะอยู่ต่อไปไม่ได้ด้วยเช่นนี้ทั้ง ที่
จากภาคเอกชนที่เป นทนายความ ได้อภิปรายสั้น ยืนยันความไม่พอใจโดย มีสมาชิกสภาฯ ที่รัฐบาลแต่งตั้งอยู่ถ งคร ่งสภาฯ จำานวน 78 เสียง มากกว่า
ไม่อธิบายเหตุผลอะไรมาก แต่ได้เรียกร้องเลยว่า 18 เสียงที่ไม่ให้สัตยาบันอยู่ 5 เสียง 19 จ งทำาให้คิดกันว่าน่าจะมีบุคคล
ที่มีอิทธิพลทางการเมืองและทางทหารด้วย ต้องการให้รัฐบาลแพ้เสียง
“ ะนั้นขอให้ส า นี้ อย่าได้รับหลักการ ในเรื่องที่จะอนุมัติ และนายกรัฐมนตรีจะต้องลาออก
ให้ไปท�าสัตยาบันกับต่างประเทศ”
การอภิปรายของนายมังกร สามเสน สมาชิกประเภทที่ 2 ซ ่งมาจาก
การแต่งตั้ง ที่ได้ลุกข ้นมาอภิปรายสั้นมากแต่ชัดเจนตั้งแต่ตอนต้น ที่ขอ
สมาชิกสภาฯ อีกท่านหน ่ง ได้แก่พันตรี หลวงรณสิทธิ พิชัย สมาชิก ให้สภาฯ ไม่ให้สัตยาบัน นับว่าเป นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ยิ่งต่อมา
สภาฯ ประเภทที่ 2 ซ ่งเป นผู้ก่อการฯ ายทหารบกสายหลวงพิบูลสงคราม นายพันตรี หลวงรณสิทธิ พิชัย นายทหารผู้ก่อการฯ ที่มีความสนิทเป นเพื่อนกับ
ได้ลุกข ้นอภิปรายต่อจากหลวงวรนิตปรีชา ซ ่งได้วิงวอนขอให้สภาฯ ให้สัตยาบัน หลวงพิบูลสงคราม ได้ลุกข ้นมาอภิปรายเล่นงานรัฐบาลอย่างรุนแรงในเรื่องนี้
หลวงรณสิทธิ พิชัย ได้กล่าวอย่างยืดยาว อ้างความเดือดร้อนของราษฎร และ ถ งขนาดเรียกร้องให้สมาชิกฯ ไม่ให้สัตยาบัน ก็ยิ่งชัดเจนข ้นอีก คือ ไม่สนใจ
ตอบหลวงวรนิติฯ ไปในตัวว่า ว่ารัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ก็ตาม เสียงที่ไม่ให้สัตยาบันนั้นเกือบถ งก ่งหน ่งของ
สมาชิกทั้งหมดของสภาที่มีอยู่ คือ 78 นาย แต่ปกติสมาชิกที่มาประชุมกัน
“ในป ญหาที่สมาชิกผู้หนึ่งว่า ถ้าหากส า นี้ไม่อนุมัติ ก็ประมาณ 130 กว่าคนเท่านั้น ในวันนั้นมีสมาชิกมาประชุม 139 นาย แล้ว
สัตยาบัน รั บาลนี้จะลาออก ข้อนี้จะเป็นจริงหรือไม่อย่างไรนั้น ก็ทราบกันดีว่าสมาชิกสภาที่ไม่ได้มาประชุมส่วนมากคือสมาชิกสภาฯ
หาใช่หน้าที่ของส า นี้จะพึงพิจารณาไม่ ะเพาะส า นี้ไม่มี ประเภทที่ 2 ที่มาจากการแต่งตั้ง เพราะเป นข้าราชการประจำาที่มีงานต้องทำา
หนทางอื่นใดเลย นอกจากว่าจะไม่รับหลักการของรั บาล” อยู่ทุกวันในวันทำาการ ส่วนผู้ซ ่งมีอาชีพอิสระที่อยู่ในภาคเอกชนอย่าง
นายมังกร สามเสน มีอยู่เพียงไม่กี่คน และพวกสมาชิกสภาประเภทที่ 2
เมื่อได้อภิปรายกันพอสมควรแล้วประธานสภาฯ จ งได้ขอให้ ที่ไม่มาประชุมในวันนั้น น่าจะมีผู้ที่ตั้งใจไม่มา เพราะไม่อยากช่วยรัฐบาลก็ได้
สมาชิกสภาลงมติโดยยกมือ ปราก ว่ามีผู้ไม่อนุมัติให้สัตยาบันจำานวน เพราะการประชุมในวันที่ 13 นั้นรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการพิจารณาและลงมติ
73 เสียง และมีผู้อนุมัติให้สัตยาบัน 25 เสียง เป นอันว่ารัฐบาลไม่ได้รับการให้ ในเรื่องการให้สัตยาบัน ซ ่งรัฐบาลต้องการเสียงสนับสนุน ทั้งหมดนี้เชื่อว่า
สัตยาบันจากสภาฯ ในเรื่องสั าจำากัดโควต้ายาง การที่สภาฯ ไม่ให้สัตยาบัน พระยาพหลฯ น่าจะพอทราบได้ ด้วยเหตุนี้ ในวันรุ่งข ้นเมื่อสภาฯ ประชุม
ในสั าที่ทางรัฐบาลไปลงนามตกลงกับต่างประเทศ รัฐบาลก็จะอยู่ต่อไป หารือกันแล้ว ยังเลือกท่านให้กลับมาเป นนายกรัฐมนตรีอีก พระยาพหลฯ
ไม่ได้ พระยาพหลฯ จ งได้ลาออกจากนายกรัฐมนตรีในคืนวันที่ 13 กันยายน จ งไม่ยอมรับเป นนายกรัฐมนตรีในทันที โดยให้สภาฯ ไปหาผู้อื่น
พ.ศ. 2477 ในทันที นับเป นครั้งแรกที่รัฐบาลแพ้เสียงในสภาฯ และเป นครั้งแรก