Page 180 - kpiebook65056
P. 180

178          ผู้  นร   รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว                  179



  “ส�าหรับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์พอใจในคำาตอบชี้แจง ต่อจากนั้นผู้ทำาการ
 และการเมือง  ตามที่บันทึกในรายงานการประชุม ตกค�าว่า “วิชา”   แทนประธานได้ขอมติจากสภาฯ ซ ่งก็ได้มติ ดังที่บันท กไว้ว่า  ที่ประชุมยกมือ

 หน้าค�าว่าธรรมศาสตร์   ผู้เขียน  ซึ่งรั บาลเสนอเป็นการด่วนนั้น  ข ้นพร้อมเพรียงกัน  กฎหมายนี้ได้รับการประกาศใช้ในวันที่ 17 มีนาคม
 ความประสงค์ของรั บาลในวันนี้มีเพียงว่าขอให้ส า  พิจารณา  พ.ศ. 2476 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ลงประกาศในราชกิจานุเบกษา เมื่อ
 รับหลักการ    ะนั้นวันนี้ความประสงค์ของรั บาลคือส า   วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2477

 รับหลักการแล้วจะได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญไปพิจารณาได้ ”
                            เมื่อออกกฎหมายจัดระบบบริหารราชการ ซ ่งเป นกฎหมายที่
                   ปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบการบริหารราชการให้มีราชการบริหารส่วนท้องถิ่น
 ในวันนั้นสภาฯ ได้มีมติรับหลักการร่างกฎหมายมหาวิทยาลัย   ข ้นมาแล้วตั้งแต่ปลายสมัยรัฐบาลพระยาพหลฯ 1 คือ ตั้งแต่เดือนพ ศจิกายน
 วิชาธรรมศาสตร์ฯ และได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามั จำานวน 5 ท่าน    พ.ศ. 2476 ฉะนั้นการมีกฎหมายที่ว่าด้วย รูปแบบการปกครองท้องถิ่น จ งเป นสิ่ง

 มีหลวงประดิษฐ์ฯ หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ ดร.เดือน บุนนาค    ที่จำาเป น และรัฐบาลพระยาพหลฯ ก็ไม่ได้ชักช้า สามารถนำาร่างพระราชบั  ัติ
 พระสารสาสน์ประพันธ์ กับ นายนาวาเอก พระเรี่ยมวิรัชชพากย์ ไปพิจารณา   เข้าสภาฯ ได้ในสมัยประชุมแรกของสภาฯ ที่มีสมาชิกสภาฯ มาจากการเลือกตั้ง

 ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้กลับมาเข้าสภาฯ ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3    ด้วย ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2476 และเชื่อว่าการขยายวันประชุมให้ต่อมาจน
 ในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2476 โดยมีการอภิปรายซักถามกันอีก โดยเฉพาะ   สิ้นสุดในปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2476 นั้น เป าหมายหน ่งน่าจะเป นเรื่องให้
 นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี    มีเวลาให้สภาฯ พิจารณาร่างพระราชบั  ัติเกี่ยวกับเทศบาลให้เสร็จในสมัย

 ได้ถามถ งเรื่องงบประมาณซ ่งหลวงประดิษฐ์ฯ ได้เป นผู้ตอบความว่า    12    ประชุมนี้นั่นเอง ในการสร้างประชาธิปไตยนั้นเข้าใจว่าทางคณะผู้ก่อการฯ และ

                   รัฐบาลน่าจะมองว่าการกระจายอำานาจจากส่วนกลางให้ไปเลือกผู้บริหารเอง
  “ได้ก�าหนดในชั้นต้นว่าอยากจะขอเงินอุดหนุนจากรั บาล   และบริหารจัดการกันเองที่ท้องถิ่นจะเป นการทำาให้ผู้คนทั่วประเทศตื่นตัว

 ในร่างเดิมเราใส่ว่าจะขอเงิน เท่ากับที่รั บาลอุดหนุนอยู่ในเวลานี้
 เท่านั้น ไม่ขอเพิ่มอีก กล่าวคือ ในเวลานี้รั บาลได้มีการอุดหนุน   ทางการเมือง และมีส่วนร่วมในกิจสาธารณะมากข ้น ให้มีการเรียนรู้โดย
 การศึกษาประเ ทนี้อยู่ คือ คณะนิติศาสตร์และรั ศาสตร์    การป ิบัติกันเองในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือในท้องถิ่นนั่นเอง

 การอุดหนุนนั้นก็คือ ได้อุดหนุนโดยที่จ้างศาสตราจารย์หรือ   ร่างพระราชบั  ัติจัดระเบียบเทศบาลนี้ ได้เข้าสภาในวันที่
 แต่งตั้งศาสตราจารย์ให้ได้รับต�าแหน่งนั้น ๆ นอกจากนั้นยังได้มี   21 มีนาคม พ.ศ. 2476 นายกรัฐมนตรี พระยาพหลฯ ได้ขอให้หลวงประดิษฐ์ฯ

 การอุดหนุนในเรื่องที่จะอนุญาตให้จ้างผู้สอนชนิดวิสามัญคือ   ซ ่งเป นผู้ริเริ่มร่างกฎหมายฉบับนี้ข ้น เป นผู้แถลง มีความสำาคั ดังนี้    13
 มาสอนชั่วครั้งชั่วคราว ในคณะนิติศาสตร์และรั ศาสตร์นั้นด้วย
 ...และนอกจากนั้นมหาวิทยาลัยนี้หวังที่จะเลี้ยงตนเองได้ ”
   175   176   177   178   179   180   181   182   183   184   185