Page 194 - kpiebook64013
P. 194

จากนั้นร่างรัฐบัญญัติที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสจะส่ง

          ให้ประธานาธิบดีลงนาม ทั้งนี้ ร่างรัฐบัญญัติที่ผ่านการลงนามโดย
          ประธานาธิบดีจะได้รับหมายเลขกฎหมายในระดับสาธารณรัฐ และมีผล
          ใช้บังคับต่อไป ส่วนร่างรัฐบัญญัติที่ประธานาธิบดีไม่ลงนามก็จะมีผล

          ใช้บังคับในทันทีเมื่อพ้น 30 วันนับแต่ประธานาธิบดีได้รับร่างรัฐบัญญัติ
          อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีสามารถใช้อำานาจยับยั้งร่างรัฐบัญญัติได้

          โดยการจัดทำาความเห็นคัดค้านการออกกฎหมายและส่งร่างรัฐบัญญัติ
          คืนรัฐสภาหรือวุฒิสภา แล้วแต่กรณี ร่างรัฐบัญญัติที่ถูกยับยั้งจะมีผล
          ใช้บังคับถ้าสมาชิกสภาคองเกรสจำานวนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 มีมติยืนยัน

          ร่างรัฐบัญญัติได้ กระบวนการนิติบัญญัติทั้งหมดนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น
          กระบวนการกลั่นกรองให้ร่างกฎหมายเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมมากขึ้น

          อันถือเป็นจุดแข็งของกระบวนการนิติบัญญัติของระบบประธานาธิบดี
          และระบบตรวจสอบและถ่วงดุลอำานาจของประเทศฟิลิปปินส์     127



                   2.   บทบาทและอ�านาจหน้าที่ในการตรวจสอบ

                   2.1   การแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ


                   รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ค.ศ. 1987 กำาหนด
          หลักการให้วุฒิสภาของประเทศฟิลิปปินส์มีบทบาทอำานาจหน้าที่ในด้าน
          การควบคุมและตรวจสอบการดำาเนินงานขององค์กรของรัฐฝ่ายบริหาร

          ทั้งนี้ได้กำาหนดให้วุฒิสภามีอำานาจในการพิจารณา สอบสวน หรือศึกษา
          ประเด็นต่างๆ ได้ตลอดจนมีอำานาจในการตั้งคณะกรรมาธิการให้มีอำานาจ

          ในประเด็นที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำานาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการได้ตาม

          127    นิรันดร์นุต ภัคพงศ์พหลโยธิน และวัชรา ธิตินันทน์. การศึกษาเปรียบเทียบ
          รัฐสภาของประเทศในภูมิภาคเอเชีย : กรณีศึกษาสาธารณรัฐฟิลิปปินส์. กรุงเทพฯ :
          สถาบันพระปกเกล้า.


        194  บทบาทอำานาจหน้าที่ของวุฒิสภาในระบบสภาคู่กับประสิทธิผลในการเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาประชาธิปไตยไทย
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199