Page 56 - kpiebook64011
P. 56
ขององค์กรปกครองท้องถิ่นเพิ่มขึ้น การขยายตัวของการให้บริการจากองค์กรปกครองท้องถิ่นที่ไม่ต้องพึ่งระบบ
การคุมพื้นที่ย่อยของสมาชิกจักรกลเมืองก็มีส่วนท าให้ระบบจักรกลลดบทบาทลง รวมทั้งการลดลงของ
ประชากรอพยพ (หมายถึงประชากรที่ยังปรับตัวเข้ากับสังคมนั้นไม่ได้)
ผู้วิจัยขอย้ าว่า จักรกลการเมืองนั้นเป็นแนวคิดที่อธิบายระบบอุปถัมภ์สมัยใหม่หรือการอุปถัมภ์ใน
สังคมสมัยใหม่รูปแบบหนึ่ง เกิดได้ในสังคมใหม่และสังคมอุตสาหกรรม เงื่อนไขส าคัญคือกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
นั้นยังต้องใช้เสียงเพื่อเข้าแลกกับการช่วยเหลือคุ้มครองโดยผ่านตัวแทนที่เชื่อมโยงกับบริการสาธารณะ ทั้งใน
แง่ของงาน โอกาสทางเศรษฐกิจอื่น และการปรับตัวเข้าสู่ระบบ ดังนั้นระบบจักรกลจึงเกี่ยวพันกับมิติของชน
ชั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่ใช่คนจนในภาพรวม หากแต่เป็นลักษณะของความยากจนบางประการ อาทิผู้
อพยพ ซึ่งในแง่นี้หากน ามาใช้ในกรณีอื่น ๆ เราอาจจะต้องท าความเข้าใจว่าการเติบโตของจังหวัดหรือเมืองนั้น
ท าให้ใครเสียประโยชน์อยู่ แล้วคนเหล่านั้นพึ่งพาจักรกลการเมืองอย่างไร จักรกลการเมืองจึงไม่ต้องสืบ
เนื่องมาจากสังคมเก่า และแม้จะมีการซื้อเสียง แต่การซื้อเสียงนั้นย่อมไม่สามารถท าได้ถ้ากลไกการซื้อเสียงนั้น
ไม่เข้าใจพื้นที่และเชื่อมโยงกับผู้คนในพื้นที่นั้นได้ เพราะการซื้อเสียงนั้นกระท าอย่างเปิดเผยไม่ได้ แต่สามารถ
ท าให้เป็นที่รับรู้แต่จับไม่ได้หรือเอาผิดไม่ได้
Golosov (2013) ซึ่งน าเอาแนวคิดการเมืองแบบจักรกลมาอธิบายการเมืองร่วมสมัยของรัสเซีย
น าเสนอมิติว่าด้วยค าจ ากัดความของการเมืองแบบจักรกลว่าแตกต่างจากพรรคการเมืองตรงที่เน้นไปที่เรื่อง
ของการแลกเปลี่ยนแบบเฉพาะเจาะจงกับเรื่องบางเรื่อง โดยการเชื่อมโยงกันระหว่างประชาชน/มวลชนกับ
จักรกลนี้ไม่ใช่เรื่องบริการสาธารณะที่ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทน หรือสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ให้กับประชาชน
ที่พรรคการเมืองมักน าเสนอ แต่เป็นเรื่องของระบบอุปถัมภ์ ซึ่งมีความหมายว่าเป็นการแลกเปลี่ยนคะแนนเสียง
กับผลประโยชน์ทางวัตถุที่จับต้องได้ และเป็นผลประโยชน์เฉพาะตนมากกว่าการคิดว่าถ้าเลือกแล้วสังคมนั้นจะ
ดีขึ้นอย่างไร ในค าจ ากัดความนี้ผู้วิจัยเห็นว่าการซื้อเสียงจึงเป็นส่วนที่ง่ายหรือพื้นฐานที่สุดของการเมืองแบบ
จักรกล ไม่ใช่ความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม นอกจากนี้แล้ว Golosov ยังชี้อีกว่าการซื้อเสียงก็ไม่ใช่ทั้งหมดของ
การเมืองแบบจักรกล และในอีกด้านหนึ่ง จักรกลการเมืองนั้นไม่จ าเป็นต้องอิงกับระบบอุปถัมภ์ในแบบเดิมที่
คาดหวังความต่อเนื่องมากกว่าหนึ่งครั้งของความสัมพันธ์ และความสนิทสนมคุ้นเคยระหว่างผู้อุปถัมภ์และผู้
เลือกตั้งภายใต้ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างกัน เพราะระบบอุปถัมภ์ในวันนี้ท างานได้ในสังคมที่ซับซ้อนกว่า
สังคมหมู่บ้าน (ชนชท) ดังที่เคยเป็นตัวแบบการศึกษาในยุคก่อน ความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์และจักรกล
การเมืองยุคใหม่เปลี่ยนไปในลักษณะของการปรับปรุง (modified) จากเดิมสู่ความสัมพันธ์แบบเห็นหน้าเห็น
ตากันของผู้อุปถัมภ์กับผู้ใต้อุปถัมภ์มาเป็นสายสัมพันธ์แบบ “ตัวแทนจ าหน่าย/ตัวกระท าการแทน/นายหน้า”
(broker relationships) ในความหมายที่ว่า แม้จะมีความสัมพันธ์ระหว่างตัวผู้อุปถัมภ์ใหญ่และตัวผู้ใต้อุปถัมภ์
ระดับรากหญ้า แต่ทั้งหมดกระท าผ่านตัวแทนในหลายระดับ และเมื่อการเลือกตั้งกลายเป็นเงื่อนไขหลักของ
การเมืองในพื้นที่ ผู้ใต้อุปถัมภ์ก็อาจจะแปรพักร์ได้ทั้งในแง่ไม่กี่คน จนกระทั่งทั้งหมดซึ่งท าให้การเมืองระบบ
อุปถัมภ์ล่มสลายลง ในแง่ที่รับเงินหรือรับผลประโยชน์แต่ไม่ลงคะแนนเสียงให้ ซึ่งในแง่นี้จักรกลการเมืองและผู้
อุปถัมภ์และเครือข่ายจะต้องท างานหนักมากขึ้นในการรักษาสายสัมพันธ์เอาไว้ (มากกว่าตัวผู้ใต้อุปถัมภ์หรือผู้
ลงคะแนนเสียง - ผู้วิจัย)
Golosov (2013) ยังตั้งค าถามว่า การเมืองแบบจักรกลนั้นเนื่องจากเติบโตขึ้นในช่วงการตั้งตัวของ
ประชาธิปไตยแบบเลือกตั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม ค าถามก็คือ การเมืองแบบจักรกล
นั้นเป็นเงื่อนไขหนึ่งหรือเป็นองค์ประกอบของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ และในอีกด้านหนึ่ง จะพบว่าแม้ใน
โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ 38