Page 23 - kpiebook64007
P. 23
วิธีกำรศึกษำวิจัย
การวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบกรณีศึกษากรณีเดียวแบบองค์รวม (Holistic Single Case
Study) โดยเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพื่อด าเนินการตาม
วัตถุประสงค์การวิจัย คณะผู้วิจัยก าหนดให้จังหวัดขอนแก่นเป็นระบบขอบเขตจ าเพาะ (Bounded
System) ในการวิจัย และมุ่งศึกษาปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ การเลือกตั้งสมาชิกสภา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2563
ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
ประชากรส าหรับการวิจัยครั้งนี้คือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้งในการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2563
ส าหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลหลักในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วยผู้สมัครรับเลือกตั้ง
เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วน
จังหวัดขอนแก่น อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ผู้ใกล้ชิดกับนักศึกษาเมือง
ท้องถิ่น ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้วิจัยเลือกผู้ให้ข้อมูลหลักเหล่านี้ด้วยวิธีการเลือกแบบ
เจาะจง โดยเลือกผู้ให้ข้อมูลหลักที่มีลักษณะเป็นผู้ให้ข้อมูลส าคัญ (Key Informant) กล่าวคือ มี
ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการเมืองและการเลือกตั้งท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น และติดตาม
และรับรู้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอด
ส าหรับการวิจัยเชิงปริมาณ ผู้วิจัยก าหนดกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการก าหนดกลุ่มตัวอย่างแบบ
หลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยในเบื้องต้นผู้วิจัยได้ก าหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจ านวน
700 คน จากประชากรในจังหวัดขอนแก่นทั้งสิ้น 1,802,872 คน ซึ่งมีระดับความเชื่อมั่นเท่ากับร้อย
ละ 99 และค่าความคลาดเคลื่อนเท่ากับร้อยละ 5 จากนั้นผู้วิจัยได้แบ่งพื้นที่จังหวัดขอนแก่นออกเป็น
5 กลุ่มพื้นที่ (Cluster) ตามที่ตั้งและจ านวนประชากร และได้ก าหนดโควตาจ านวนกลุ่มตัวอย่างในแต่
ละกลุ่มพื้นที่ตามสัดส่วนจ านวนประชากร ดังตารางที่ 1
โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น 6