Page 75 - kpiebook63014
P. 75
74 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
จังหวัดสุรินทร์
มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครมากเป็นประวัติการณ์ โดยมีผู้สมัครถึง 3,722 คน แบ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต
2,782 คน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 940 คน จากทั้งหมด 43 พรรคการเมือง โดยพรรคไทยรักไทย นำาโดย
นายทักษิณ ชินวัตร เป็นพรรคที่ได้ที่นั่งมากที่สุด 247 ที่นั่ง เป็นแกนนำาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับอีก 3 พรรค
มีเสียงในสภารวม 367 เสียง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านมีเสียงเพียง 163 เสียง ด้วยเสียงในสภาจำานวนมาก
ทำาให้รัฐบาลชุดนี้มีเสถียรภาพและมีความเข้มแข็ง ท่ามกลางการถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสามารถบริหารงาน
ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนเป็นรัฐบาลชุดแรกที่สามารถอยู่จนครบวาระ 4 ปี (www.thaipublica.org,
2561)
ในการเลือกตั้งครั้งนี้จังหวัดสุรินทร์มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 9 คน โดยการแบ่งเขตเลือกตั้ง
แบบเขตเดียวเบอร์เดียว ซึ่งผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปรากฏว่าได้ผู้แทนที่มาจากพรรค
ไทยรักไทยถึง 7 คน จากจำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 9 คน
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 ยังคงเป็นการเลือกตั้งที่ใช้หลักเกณฑ์
และกติกาการเลือกตั้งเช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่ 20 โดยผลจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 พรรคไทยรักไทยยังทำาให้เกิดปรากฏการณ์ทางการเมืองครั้งใหม่อีกครั้ง
โดยเป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ภายใต้กฎกติกาการเลือกตั้งในระบอบ
ประชาธิปไตย จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นช่วงที่การเมืองไทยถูกบริหารงานโดย “รัฐบาลพรรคเดียวแบบพรรค
เด่นพรรคเดียว (single party government)” โดยพรรคไทยรักไทย ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งด้วยจำานวน
ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรถึง 377 ที่นั่ง ทิ้งห่างพรรคการเมืองอื่นๆ อันได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีจำานวน
96 ที่นั่ง พรรคชาติไทย 25 ที่นั่ง และพรรคมหาชน 2 ที่นั่ง และส่งผลให้เป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านไป
โดยทันที (นพรัตน์ วงศ์วิทยาพาณิชย์ และ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, 2552) สำาหรับจังหวัดสุรินทร์มีสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร 9 คน ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปรากฏว่า ได้ผู้แทนที่มาจาก
พรรคไทยรักไทยถึง 8 คน จากจำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 9 คน โดยแบ่งที่นั่ง 1 ที่นั่งให้กับ
พรรคชาติไทย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าพรรคไทยรักไทยจะสามารถก้าวเข้ามาบริหารประเทศได้โดยสามารถ
จัดตั้งรัฐบาลได้เพียงพรรคการเมืองเดียว แต่กลับปรากฏว่าการดำารงอยู่ของรัฐบาลพรรคเดียวภายใต้
พรรคไทยรักไทยสามารถบริหารประเทศได้เพียง 11 เดือน เท่านั้นก็มีอันต้องยุติบทบาทไป นั่นคือเริ่มเข้ามา
บริหารประเทศตั้งแต่เวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2548 และไปสิ้นสุดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
อันเนื่องมาจากปัญหาด้านการคอรัปชั่นเชิงนโยบาย ผนวกกับผลประโยชน์ทับซ้อนของรัฐบาลที่สั่งสม
มานานตั้งแต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ามาบริหารประเทศในสมัยแรก (9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2544 -
8 มีนาคม พ.ศ.2548) จนนำามาสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันที่ 27-28 มิถุนายน
พ.ศ. 2549 ต่อจากนั้นความไม่พอใจถึงได้พัฒนามาเป็นความไม่ไว้วางใจของประชาชนคนชั้นกลางถึง
จุดระเบิด เมื่อพบว่า บริษัท ชิน คอเปอร์เรชั่น จำากัด (มหาชน) ขายหุ้นให้กองทุนเทมาเส็กของรัฐบาล
สิงคโปร์เป็นเงิน 73,300 ล้านบาทในเดือนมกราคม พ.ศ. 2529 โดยเสียภาษีและมีเงื่อนงำาอันฉ้อฉล