Page 73 - kpiebook63013
P. 73
73
4.1 บทวิเครำะห์ก่อนกำรเลือกตั้ง
พรรคการเมืองถือเป็นองค์ประกอบสำาคัญของระบบประชาธิปไตยแบบตัวแทน เพราะทำาหน้าที่
ในการเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างประชาชนและรัฐ นำาเสนอปัญหาของประชาชนพร้อมแนวทางแก้ไข สรรหา
ผู้นำาและบุคลากรทางการเมือง ให้ความรู้หรือกระตุ้นประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง รวมไปถึง
การทำาหน้าที่เป็นรัฐบาลเพื่อนำานโยบายที่ได้หาเสียงไว้ไปสู่การปฏิบัติหรือเป็นฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบการทำางาน
ของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ระบบประชาธิปไตยแบบตัวแทนมีเสถียรภาพและความตั้งมั่น พรรคการเมือง
จำาเป็นที่จะต้องสร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองและความเชื่อมั่นไว้วางใจแก่ประชาชน โดยการวิจัยครั้งนี้
เน้นศึกษาไปที่ทัศนคติและพฤติกรรมของผู้ลงคะแนนเสียงในช่วงเวลาของการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงมุ่งวิเคราะห์
ทัศนคติของประชาชนต่อความจำาเป็นในการมีพรรคการเมืองและความเชื่อมั่นไว้วางใจต่อพรรคการเมืองเป็น
หลัก โดยความเชื่อมั่นไว้วางใจต่อพรรคการเมืองในที่นี้ หมายความถึง ความเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองสามารถ
ทำาหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนได้จริง ความเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองสามารถคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณภาพ
ได้จริง ความเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองสามารถผลิตนโยบายที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้จริง และ
ความเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองสามารถทำางานตามกลไกของระบบรัฐสภาได้จริง
เขตเลือกตั้งที่ 1 อ�ำเภอเมืองสุรำษฎร์ธำนี
ความตั้งมั่นของพรรคการเมือง
จากการสัมภาษณ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 ต่อคำาถามที่ว่า “สำาหรับท่าน อะไรสำาคัญกว่า
ระหว่างพรรคการเมืองกับตัวผู้สมัคร เพราะอะไร” พบว่า ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ (70 เปอร์เซ็นต์) ให้ความสำาคัญ
กับพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคลอย่างเห็นได้ชัด โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจาก “พรรคการเมืองเป็นที่ผลิตนโยบาย
ในการหาเสียง” “พรรคการเมืองเป็นจุดกำาเนิดของอุดมการณ์” “พรรคการเมืองดำาเนินการทางการเมือง
มาอย่างยาวนาน” และ “หัวหน้าพรรคการเมืองมีบทบาทอย่างมาก” ซึ่งแน่นอนว่าการให้การยอมรับและ
ให้ความสำาคัญกับพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคลในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่น
และไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองในระดับหนึ่ง และเมื่อพิจารณาจากคำาตอบก็สะท้อนนัย