Page 131 - kpiebook63013
P. 131

131








                  การตัดสินใจเลือก ในขณะที่เขตเลือกตั้งที่ 3 และเขตเลือกตั้งที่ 4 ผู้ให้สัมภาษณ์จำานวนครึ่งหนึ่งระบุว่า

                  การอุปถัมภ์ช่วยเหลือของผู้สมัครส่งผลต่อการลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครท่านนั้น ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ 5 พบว่า
                  ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าหากได้รับการอุปถัมภ์จากผู้สมัครท่านใดก็จะเลือกผู้สมัครท่านนั้นเนื่องจาก

                  เป็นการตอบแทนบุญคุณ จึงพอจะกล่าวได้ว่า ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น ความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ยังคงมีส่วน
                  ในการทำาให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้รับคะแนนเสียง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ ทั้งนี้อาจจะเป็น

                  เพราะการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ส่งผลต่อทัศนคติของประชาชน การเรียนหนังสือ การเข้าทำางาน การเติบโตใน
                  หน้าที่การงาน ของคนรุ่นใหม่อาจจะไม่ได้พึ่งพานักการเมืองหรือผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งมากเท่ากับคนในรุ่นก่อน

                  (การไปเรียนหนังสือหรือทำางานหรือการทำาธุรกิจในต่างถิ่นที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตนเองย่อมทำาให้อิทธิพลของ
                  นักการเมืองที่ใช้วิธีการจูงใจรูปแบบนี้เสื่อมไปโดยปริยาย) อีกทั้งคนรุ่นใหม่อาจรู้สึกว่าความก้าวหน้าในชีวิตของ

                  ตนนั้นเป็นผลมาจากความพยายามหรือความสามารถของตัวเองมากกว่าจะเป็นเพราะผู้อื่นอุปถัมภ์ช่วยเหลือ





                          กำรใช้ทรัพยำกร กำรใช้เงิน ในกำรหำเสียงเลือกตั้ง


                          สำาหรับพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้เงินเพื่อการหาเสียง กล่าวคือ

                  นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันการใช้เงินเพื่อการได้มาซึ่งคะแนนเสียงนั้นมีไม่มากนัก ในงานเรื่อง นักการเมืองถิ่น
                  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตั้งข้อสังเกตว่า นักการเมืองในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีกลวิธีการหาเสียงที่ไม่แตกต่างกัน

                  และไม่ค่อยใช้เงินในช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง วิธีการหาเสียงที่นิยมอย่างมากคือการลงพื้นที่
                  พบปะประชาชนในลักษณะการเคาะประตูบ้าน การร่วมกิจกรรมทางสังคม นักการเมืองจะใช้โอกาสทั้งที่

                  เป็นงานส่วนรวมหรืองานส่วนบุคคลในการเปิดตัวและแสดงตัวต่อสาธารณชนหรือการทำาให้เจ้าภาพรู้สึกเป็น
                  เกียรติและทำาให้งานเกิดความสำาคัญมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ก็ยังคงปรากฏอยู่ในการเลือกตั้ง

                  ปี พ.ศ.2562 ไม่มีผู้ให้สัมภาษณ์คนใดให้ข้อมูลว่าได้รับเงินจากผู้สมัครหรือหัวคะแนน แต่จะพบเห็นผู้สมัคร
                  ไปร่วมงานสำาคัญหรืองานสังคมมากกว่า


                          นอกจากนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนทั้ง 6 เขตเลือกตั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีทัศนคติเชิงลบต่อ

                  การใช้จ่ายเงินในการซื้อเสียงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่เห็นว่าการเริ่มต้นด้วยการทุจริตย่อมจะคาดการณ์ได้ว่า
                  ผู้สมัครคนนั้นจะต้องทุจริตต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน โดยผู้ให้สัมภาษณ์บอกว่าหากเจอสถานการณ์ดังกล่าว

                  จะไม่รับเงินจากหัวคะแนนหรือผู้สมัครอย่างเด็ดขาด และทุกคนเห็นตรงกันว่าการใช้เงินจูงใจเพื่อให้
                  ลงคะแนนเสียงนั้นไม่มีผลต่อการตัดสินใจของตนอย่างแน่นอน ซึ่งการมีทัศนคติปฏิเสธเรื่องการรับเงินหรือ

                  การไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการใช้เงินของผู้สมัครเพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งในสถานการณ์ที่ราคาสินค้า
                  เกษตร (ยางพารา ปาล์มนำ้ามัน) ตกตำ่าแสดงให้เห็นถึงลักษณะบางอย่างของประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

                  นั่นคือยังคงแยกระหว่างเรื่องปากท้องของตนเองกับเรื่องสาธารณะออกจากกัน (ไม่เอาผลประโยชน์เฉพาะหน้า
                  ของตนแลกกับความเสียหายของประเทศที่จะเกิดขึ้น) และยังมีค่านิยมว่าการเมืองนั้นควรจะดำาเนินไปอย่าง

                  มีคุณธรรมและ “คนดี” ควรจะได้เข้าไปบริหารประเทศ
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136