Page 88 - kpiebook63011
P. 88
88 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดเชียงใหม่
“ผมกับนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่เป็นเพื่อนกันและนายกฯ
บุญเลิศเป็นอาของ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย แต่ผมกับนายกฯ
บุญเลิศได้คุยกันแล้ว เขาก็ยินดีที่ผมขันอาสาลงสมัครรับเลือกตั้ง และบอกว่าไม่สนับสนุนใคร
และจะวางตัวเป็นกลางและจะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกส.ส.เอง” (เชียงใหม่นิวส์, 2562)
ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ. 2557 นักการเมืองและตระกูลการเมืองไม่ได้มีบทบาทหรือแสดง
กิจกรรมทางการเมืองมากนัก มีผลทำาให้ค่านิยมหรือความคิดเรื่องตระกูลการเมืองในจังหวัดเชียงใหม่ลดน้อยลงไป
การเข้ามามีบทบาททางการเมืองของกลุ่มคนที่หลากหลายมากขึ้น มีผลต่อความสนใจในตัวบุคคลที่ไม่ได้พิจารณา
แค่เพียงนามสกุลหรือตระกูลการเมืองเท่านั้น การเมืองไทยที่ทุลักทุเลระหว่างการสลับสับเปลี่ยนกันของการเลือกตั้ง
กับการรัฐประหารในรอบกว่า 30 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อนปี พ.ศ. 2540
ต่อเนื่องมาจนหลังการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2544 เมื่อเกิดการถดถอยของตระกูลการเมืองในอดีตก็มักจะเห็น
การงอกเงยของตระกูลการเมืองใหม่ ๆ ที่มีลักษณะโดดเด่นของกลุ่มตระกูลที่มีฐานทางธุรกิจการค้ามากยิ่งขึ้น
การเติบโตของตระกูลการเมืองมองได้เป็นทั้งข้อได้เปรียบและเป็นจุดอ่อนในการแข่งขันทางการเมือง โดยเฉพาะ
ในยุคของการเมืองที่มีการรัฐประหารหรือมีตระกูลการเมืองใหม่ที่เติบโตมาจากภาคธุรกิจ
บทบาทของตระกูลการเมืองที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่ เช่น ตระกูลชินวัตร และ
ตระกูลบูรณุปกรณ์ สำาหรับตระกูลชินวัตรกล่าวได้ว่ามีบุคคลในตระกูลดำารงตำาแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน
13
ได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (โพสต์ทูเดย์ออนไลน์, 2556)
ในขณะที่ตระกูลบูรณุปกรณ์เริ่มต้นจากสนามการเมืองท้องถิ่นและก้าวมาสู่การเมืองระดับชาติ คือ นายปกรณ์
บูรณุปกรณ์, นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ และมีฐานอำานาจในระดับท้องถิ่นคือ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์และ
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ จึงกล่าวได้ว่าความเชื่อมโยงของกลุ่มการเมืองในจังหวัดเชียงใหม่เป็นเครือข่ายความสัมพันธ์
ในลักษณะของการเกื้อกูล สนับสนุนกันเป็นรากฐานเดิมจากการก่อร่างสร้างเมืองเชียงใหม่ด้วยการโยงใยทางธุรกิจ
และการดำาเนินกิจการการค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความรู้จักกันเป็นรุ่นสู่รุ่นไม่ใช่เพียงแค่ตระกูลเหล่านี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามปัจจัยสำาคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางการเมืองของตระกูลการเมืองในจังหวัดเชียงใหม่
ในช่วงที่ผ่านมาคือ บริบททางการเมืองที่เกิดสุญญากาศทางการเมืองนับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2557
เมื่อทหารมีบทบาทอย่างมากในการควบคุมกิจกรรมทางการเมือง การกำากับดูแลบทบาทของนักการเมืองและ
การเคลื่อนไหวทางการเมืองในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะกลุ่มตระกูลการเมืองของพรรคเพื่อไทยและเครือข่าย
อุปถัมภ์ในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยแวดล้อมทางสังคม คือ การเคลื่อนตัวย้ายถิ่นฐานของประชากรในเชียงใหม่
มีสูงขึ้นทำาให้ความผูกพันต่อชุมชนลดน้อยลง ประวัติศาสตร์ของตระกูลการเมืองในพื้นที่เจือจางลงไป อีกทั้งระบบ
เลือกตั้งที่เปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งนอกเขตทำาให้การรับรู้การเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่น้อยลง ข้อมูล
จากการสัมภาษณ์สมาชิกตระกูลการเมืองหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เคยมีประสบการณ์ในการลงสมัครแข่งขัน
การเลือกตั้ง ส.ส. พบว่า แต่เดิมความคิดความเชื่อของคนส่วนใหญ่คือ ความเชี่ยวชาญและความสามารถทาง
การเมืองสามารถส่งผ่านกันจากกระบวนการกล่อมเกลาของครอบครัว การมีทายาททางการเมืองซึ่งอาจเป็น
13 สมาชิกอื่นในตระกูลที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. มีมาตั้งแต่อดีต นายเลิศ ชินวัตร, สุรพันธ์ ชินวัตร, นางเยาวภา
วงศ์สวัสดิ์, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายพายัพ ชินวัตร และนางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์