Page 23 - kpiebook63010
P. 23
22 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร
พรรคใหม่ ๆ ที่ลงสมัครในเขตกทม. เช่น พลังประชารัฐและอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นที่สนใจในหมู่ประชาชน
เป็นอย่างมาก ในประการสุดท้ายกฎกติกาใหม่ของการนับคะแนนในส่วน ส.ส. บัญชีรายชื่อทำาให้ทุกพรรค
ต้องให้ความสำาคัญกับทุกคะแนนเสียงที่ได้ แต่ละพรรคจึงมีแนวโน้มที่จะแข่งขันกันอย่างเต็มที่โดยเฉพาะ
กรณีของกรุงเทพมหานครที่มีประชากรจำานวนมาก และมีความคึกคักของกิจกรรมรณรงค์หาเสียงเป็นอย่างมาก
แนวทางการศึกษาของงานวิจัยชิ้นนี้คือการสำารวจเอกสารทั้งงานวิจัยเก่า กรอบกฎหมายต่าง ๆ
และฐานข้อมูลข่าวในอินเทอร์เน็ต และจากฐานข้อมูล Newscenter การสัมภาษณ์เจาะลึกกับผู้เกี่ยวข้อง
ในการเลือกตั้งในครั้งนี้ การสังเกตุการณ์แบบมีส่วนร่วม โดยทำาการวิจัยตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง เน้นช่วง
การเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง
ผลวิจัยพบว่า
1. การเลือกตั้งครั้งนี้ในเขตกรุงเทพมหานคร เกิดขึ้นหลังจากที่ว่างเว้นมานานถึง 8 ปี อันเป็น
ผลมาจากความวุ่นวายทางเมืองที่นำาไปสู่การรัฐประหารในปี พ.ศ. 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) การปกครองภายใต้ คสช. นำาไปสู่การเปลี่ยนแปลงกฎกติกาการเมืองตั้งแต่การมีรัฐธรรมนูญใหม่
ในปี พ.ศ. 2560 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับระบบการเลือกตั้งและพรรคการเมือง นอกจากนี้
พรรคการเมืองและประชาชนยังถูกห้ามไม่ให้มีกิจกรรมทางการเมืองนับตั้งแต่การทำารัฐประหารเป็นต้นมาจนกระทั่ง
ก่อนเข้าช่วงการเลือกตั้ง
2. การเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครในครั้งนี้มีการจัดการเลือกตั้งทั้งหมด 30 เขต เปลี่ยนจาก
33 เขตในคราวที่แล้ว ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐได้ที่นั่ง 12 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 9 ที่นั่ง
พรรคอนาคตใหม่ 9 ที่นั่ง โดยทั้งสามพรรคได้คะแนนที่นั่งในกรุงเทพมหานครเป็นสัดส่วนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ
คะแนนเสียงจากจังหวัดอื่น ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเคยมีเสียงและมีที่นั่งมากที่สุดในเขตกรุงเทพมหานคร
ในครั้งที่แล้ว (3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554) ไม่ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งแม้แต่เขตเดียว แต่ก็ยังมีคะแนนเสียง
ในระดับที่มีนัยยะสำาคัญ
3. จากการวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งของพรรคหลักทั้ง 4 พรรคที่ได้คะแนนเสียงอย่างมีนัยยะสำาคัญ
ในกรุงเทพมหานคร จะพบว่า
3.1 พรรคประชาธิปัตย์เผชิญประเด็นท้าทายในเรื่องของยุทธศาสตร์การต่อสู้ทางการเมืองในระดับ
จุดยืนทางการเมือง เพราะวางตำาแหน่งทางการเมืองเอาไว้ว่าไม่สนับสนุน คสช. และไม่สนับสนุน
ฝ่ายทักษิณ นอกจากนี้ พรรคฯ ยังเสียเปรียบในการเลือกตั้งในครั้งนี้จากความเข้มแข็งเชิงสถาบัน
ของพรรคประชาธิปัตย์เอง เพราะสมาชิกจำานวนหนึ่งย้ายไปสังกัดพรรคอื่นและได้ชัยชนะ
เพราะสมาชิกพรรคประชาธิปปัตย์คนเดิมที่เคยได้รับชัยชนะ ยังได้รับการสนับสนุนจากพรรค
ให้ลงสมัครในพื้นที่เดิมที่เคยชนะ